สเปน 7
ก.ย. – กฟผ. เดินหน้าส่งเสริมนโยบายพลังงานหมุนเวียน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเชื่อมโยงพลังงานไฟฟ้าอาเซียนสานต่อนโยบาย “Energy
For All”
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย
ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวในระหว่างนำคณะสื่อมวลชน
ศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และนวัตกรรมไฟฟ้าในต่างประเทศ ณ ราชอาณาจักรสเปนว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ
20 ปี
รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศบนพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
ที่ปรากฏชัดอยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยปี 2561 – 2580
(PDP2018) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีนโยบาย Energy
for all : พลังงานเพื่อทุกคน
ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการและราคามีความเหมาะสม
ตลอดจนทั่วถึงทุกพื้นที่ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากเทคโนโลยีพลังงานทดแทน
ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้พลังงานของคนไทยมาปรับใช้อย่างสอดรับกับทิศทางการพัฒนาด้านพลังงานของโลกในอนาคต
สำหรับการศึกษาดูงานที่ราชอาณาจักรสเปนจะศึกษาดูงานการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานและระบบกักเก็บพลังงาน
ที่ Gamesa’s wind center ซึ่งมีการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานที่ใช้พลังงานจากดีเซล
ลม และแสงอาทิตย์ โดยมีระบบกักเก็บพลังงานซึ่งจะทำให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดย
กฟผ. ได้นำร่องนำกังหันลมผลิตไฟฟ้า มาใช้งานกับระบบ Wind Hydrogen Hybrid ซึ่งเป็นระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบไฮโดรเจน
เมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจะนำไปผ่านเซลล์เชื้อเพลิง
โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้จะถูกนำไปใช้งานภายในศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง
จังหวัดนครราชสีมา
รวมถึงมีแผนการพัฒนาแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (Battery
Energy Storage System : BESS) ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์
จังหวัดชัยภูมิ กำลังผลิตไฟฟ้า 16 เมกะวัตต์
และสถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี กำลังผลิตไฟฟ้า 21
เมกะวัตต์
เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ระบบส่งไฟฟ้าสามารถรองรับการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2563
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาดูงานโรงไฟฟ้า Zabalgarbi
Waste-to-Energy ราชอาณาจักรสเปน
เป็นโรงไฟฟ้าที่นำขยะจากภายในชุมชนมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ
โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากขยะ 99.5 เมกะวัตต์
ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ
อันมีส่วนเสริมความเชื่อมั่นให้กับนโยบายการส่งเสริมโรงไฟฟ้าขยะและโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐของรัฐบาลได้อีกทางหนึ่ง
“พลังงานทดแทนเป็นนโยบายที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต
กฟผ.ในฐานะหน่วยงานด้านความมั่นคงพลังงานของประเทศต้องเตรียมพร้อมทำอย่างไรไม่ให้กระทบค่าไฟฟ้า
และความมั่นคงของระบบ เพราะพลังงานทดแทนผลิตได้เป็นช่วงๆเท่านั้นไม่ได้มีเสถียรภาพเหมือน
Fossil× จะเห็นได้ชัดจากปัญหาไฟฟ้าดับในออสเตรเลีย เราก็ต้องเตรียมพร้อม”ผู้ว่า กฟผ.กล่าว.-สำนักข่าวไทย