ประชุม AEM ครั้งที่ 51 เริ่มแล้ว

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 51 เริ่มแล้ว เชื่อจะสร้างความเข้มแข็งสู่เสถียรภาพและความมั่นคงทุกด้านของสมาชิก



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต้อนรับในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 51 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด ว่า ตลอดระยะเวลา 52 ปีที่ผ่านมานับจากอาเซียนก่อตั้งขึ้นได้ ดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอาเซียนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาค ซึ่งนำมาสู่เสถียรภาพและความมั่นคงของอาเซียน และยังส่งเสริมบทบาทและความสำคัญของอาเซียนให้เด่นชัดขึ้นในสายตาประชาคมโลก


ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของการค้าการลงทุนของอาเซียนในช่วง 5 ทศวรรษที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสำเร็จที่มาจากการร่วมลงมือระหว่างสมาชิกอาเซียนในการดำเนินมาตรการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ และปัจจุบันแม้อาเซียนจะบรรลุเป้าหมายของการเป็นประชาคมไปแล้วตั้งแต่ปี 2558 แต่อาเซียนยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนายกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นการรับมือต่อความท้าทายใหม่ ๆ เช่น การเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจ ขณะเดียวกันยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานต่อเนื่องในสิ่งที่ได้ดำเนินการมาแล้ว เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน และการลดผลกระทบจากมาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี โดยเฉพาะกรอบการลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ของทั้ง 10 ประเทศที่ได้ตกลงไว้ให้มีผลตั้งแต่ปี 2560 แต่ติดปัญหาบางประการ ดังนั้น ทั้ง 10 ประเทศจะพยายามใช้มาตรการลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ให้ได้โดยเร็วและให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังกันต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ไทยรับตำแหน่งประธานอาเซียน นับว่าการดำเนินงานตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจฉบับปัจจุบันได้ดำเนินมาเกือบครึ่งทางแล้ว ประเด็นเศรษฐกิจที่ไทยผลักดันจึงมุ่งเน้นภายใต้แผนงานที่เห็นว่าจะต้องดำเนินงานต่อเนื่องหรือเร่งรัดให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว รวมทั้งเรื่องใหม่ที่อาเซียนยังไม่เคยมีการดำเนินงานมาก่อน โดยคำนึงถึงแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ ในด้านการเตรียมการสู่อนาคต การจัดทำแผนงานด้านนวัตกรรมและแผนการดำเนินงานตามกรอบการบูรณาการด้านดิจิทัล ซึ่งเป็นการสานต่อจากสิ่งที่สิงคโปร์ได้ผลักดันไว้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่การจัดทำแนวทางการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาทักษะทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4 (4IR) รวมทั้งการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ล้วนเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับองค์ประกอบสำคัญ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจอาเซียนให้มีการพัฒนาที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ด้านการสร้างความเชื่อมโยง คาดว่าสมาชิกอาเซียนจะสามารถเข้าร่วมการเชื่อมโยงระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศภายในสิ้นปีนี้ ส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของการค้าการลงทุนในภูมิภาค นอกจากนี้ การจัดทำแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร จะเป็นการนำศักยภาพของแต่ละประเทศสมาชิกมาช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับอาเซียนผ่านการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงการค้าและกระจายรายได้สู่ชุมชนมากขึ้น


ส่วนผลการเจรจาอาร์เซ็ป (RCEP) หรือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 16 ประเทศ จะช่วยเสริมสร้างความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจามากขึ้น ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาชิกอาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศ ในการหาทางออกร่วมกันและแสดงความยืดหยุ่นต่อกันให้มากที่สุดในช่วงเวลา 3 เดือนที่เหลือนี้ เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาตามที่ผู้นำได้ตั้งเป้าหมายไว้  และมีเวลาจะเจรจาครั้งนี้และอีกครั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ และหวังว่าจะจบตามเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีประเทศไทยตั้งเป้าไว้ และคาดว่าผู้นำแต่ละประเทศจะมีการลงนามตามกรอบได้ในช่วงปีหน้า

สำหรับความยั่งยืนเป็นประเด็นที่ไทยต้องการสร้างความตระหนักในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ปีนี้อาเซียนจะเริ่มความร่วมมือเพื่อต่อต้านการทำประมงไอยูยู จัดทำแนวทางการพัฒนาตลาดทุนเพื่อกระตุ้นให้ธุรกิจมีการดำเนินงานโดยคำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน และมีความร่วมมือเพื่อเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนในอาเซียน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเติบโตของอาเซียนที่มีความสมดุล และยังคงไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถตอบสนองวิถีชีวิตและความต้องการของคนรุ่นหลังได้ในช่วงเวลานี้ อาเซียนต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการจากปัจจัยแวดล้อมภายนอก อาเซียนจึงจำเป็นต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาความเป็นเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN unity and centrality) เพื่อให้ประชาคมของเรามีความเข้มแข็งและสามารถก้าวพ้นจากความท้าทายดังกล่าว ซึ่งไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับสมาชิกอาเซียนและหุ้นส่วนต่าง ๆ ของอาเซียน ในการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้บรรลุเป้าหมายตามที่อาเซียนตั้งไว้ โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้ อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับอาเซียนครึ่งแรกของปี 2562 (ม.ค. – มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 53,557.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 31,316.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 22,240.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเกินดุล 9,076.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันการส่งออกของไทยไปอาเซียน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.47 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง