ที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบให้ส่งรายงาน กมธ.ทางด่วนให้ ครม.

รัฐสภา 5 ก.ย.-สภาฯ ท้วงหนักรายงาน กมธ.ศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนฯ ตั้งข้อสังเกต กมธ.ฯ รับผลประโยชน์ จากนั้นที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบให้ส่งข้อสังเกตของ กมธ.ฯ เพื่อแนบรายงานของ กมธ.ฯ ส่งไปยัง ครม. ด้วยคะแนน 412 ต่อ 25 เสียง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่ายวันนี้ (5 ก.ย.) มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.ฯ พิจารณาแล้วเสร็จ ซึ่งมีข้อสรุปของรายงาน คือ เสียงข้างมากของ กมธ.ฯ เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน และไม่เห็นด้วยที่จะขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว

ช่วงแรกของการพิจารณารายงาน คือ การนำเสนอของ กมธ.ฯ ทั้งส่วนเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตจาก กมธ.ฯ เป็นความเห็นของ กมธ.ฯแบบรายบุคคล ทำให้การอภิปรายของ ส.ส.ต่อข้อสังเกตนั้น เป็นในทางทักท้วงให้ทบทวนการจัดทำรายงาน เพราะจะมีปัญหาในทางปฏิบัติที่หน่วยงานต้องรับไปพิจารณา


โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายตั้งข้อสังเกตของ กมธ.ฯ ที่ขัดแย้งและไม่เป็นเอกภาพ ทำให้อาจมีปัญหาต่อการส่งรายงานให้หน่วยงานไปปฏิบัติ ทั้งนี้หน่วยงานอาจรับข้อสังเกตได้ อย่างไรก็ตาม ในรายงานของ กมธ.ฯ ไม่ได้ระบุถึงเหตุผลต่อการนำคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล บุคคลที่กระทำผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการรู้ ขณะที่ข้อสังเกตของ กมธ.ฯ และมีความเห็นส่วนบุคคลระบุไว้ เชื่อว่าไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้ และอาจจะถูกโยนทิ้งได้

“45 วันที่ กมธ.ทำงาน ไม่บอกสิ่งที่อยากรู้ หากสภาฯ ให้ความเห็นรายงานฉบับนี้อาจถูกตีความการทำงานได้ แม้ว่ารายงานของสภาฯ จะไม่มีผลผูกมัดใด ๆ ต่อหน่วยงาน สัญญาสัมปทานทางด่วน อนุมาณว่าเสียงส่วนรวมควรต้องต่อ เพื่อไม่ให้แพ้คดี หลังจากที่มีคดีแรกมีคำตัดสินแล้ว ขณะที่การขยายสัญญาบีทีเอสไม่ควรต่อสัญญา และมีความเห็นส่วนตัวของ กมธ. ซึ่งที่ผ่านมารายงานของ กมธ. ไม่เคยมีเขียนแบบดังกล่าว ผมขอฝาก กมธ.ที่ต้องทำงานแทนสภาฯ ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของสภาฯ ให้มาก ไม่ใช่ทำรายงานที่นำไปอ้างอิงใด ๆ ไม่ได้ ทั้งนี้ผมขอให้นำรายงานกลับไปทบทวน” นพ.ชลน่าน กล่าว

ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากที่ดูรายละเอียดรายงาน รู้สึกสงสัยว่าเป็นผลการศึกษาหรือเป็นความเห็นของ กมธ.กันแน่ เพราะเป็นความเห็นรายบุคคลของ กมธ. ซึ่งไม่เคยเห็นการจัดทำรายงานในลักษณะที่ กมธ.ฯ ลงมติ หรือให้ความเห็นเป็นรายบุคคล  โดยรายงานที่ถูกต้องตามข้อบังคับต้องแสดงถึงผลการศึกษา จะนำข้อมูลและข้อเท็จจริงนำเสนอ จึงขอให้ กมธ. นำรายงานไปทบทวนให้ตรงกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาฯ


ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้ กมธ.นำรายงานกลับไปทบทวนใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ อย่างไรก็ตาม ตนผิดหวังกับนายวีระกร ต่อการทำงานฐานะประธาน กมธ.ฯ ที่ทำรายงานออกมาเละเทะ หาก กมธ.ฯ ไม่ถอนรายงานไปทบทวนและยืนยันให้สภาฯ ลงมติ ขอให้ กมธ.ฯ รับผิดชอบในผลที่จะเกิดจากการพิจารณาคดีทางด่วนในชั้นศาลด้วยตนเอง รวมถีงกรณีที่มีผู้พิสูจน์ต่อกรณีข้อกล่าวหาว่า กมธ.ฯ รับผลประโยชน์ด้วย

ขณะที่นายวีระกร ชี้แจงโดยยอมรับว่า หนักใจที่รับทั้ง 2 เรื่อง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องมาพิจารณาร่วมกัน และมีเวลาพิจารณาเพียง 45 วัน ยอมรับว่าความเห็นของ กมธ.มีความหลากหลายและแตกแยกเป็นหลายประเด็น ดังนั้นผลการศึกษาและข้อสังเกตของ กมธ.จึงมีลักษณะดังกล่าว เช่น การสนับสนุนให้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน นั้นยังมีรายละเอียดที่เป็นข้อสังเกต ซึ่งแตกต่างกัน ทั้งนี้ยืนยันว่ามีเหตุผลในรายละเอียดที่สมาชิกฯ สามารถศึกษาได้ ส่วนความเป็นมาของเรื่องที่ตรวจสอบและไม่ได้ระบุในรายงาน ยอมรับว่าเป็นข้อบกพร่อง ซึ่งตนขอความเห็นใจที่ กมธ. ทำงานอย่างหนัก

ด้านนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะ กมธ.ฯ เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า ความเห็นของ กมธ.ฯ ที่ลงมติมีความเห็นที่ไม่ตรงกันและขัดแย้งกัน อย่างไรก็ตาม การจัดทำรายงาน เจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์เป็นผู้จัดทำ ทั้งนี้ขอยืนยันว่า กมธ.ฯ หวังดีต่อประเทศชาติ คำนึงผลประโยชน์ประชาชน ทั้งนี้ที่ ส.ส.กล่าวหาว่า กมธ.ฯ รับเงิน  ยืนยันไม่เป็นเรื่องจริง ทำงานตรงไปตรงมา และไม่กลัวเรื่องการดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนหนึ่งของการอภิปราย มีเหตุวุ่นวายเล็กน้อย หลังจากที่ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ามีบุคคลคุยกันและมีข่าวลือภายนอกสภาฯ ว่า กมธ.ฯ มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องที่พิจารณา ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทักท้วงให้อภิปรายในกรอบและข้อบังคับ เนื่องจากไม่ควรกล่าวคำพูดที่ไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในสภาฯ และขอให้ถอนคำพูดว่าข่าวลือ จากนั้นให้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะ กมธ.ฯ เสียงข้างมาก ชี้แจง  ยืนยันว่าไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องที่พิจารณา กมธ.ชุดนี้ไม่มีใครคดโกง และไม่มีใครพัวพันกับคดีฆ่าคนตาย ทั้งนี้หากมีหลักฐาน ขอให้ส่งเรื่องตรวจสอบตามกระบวนการ

จากนั้น ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ส่งข้อสังเกตของ กมธ.ฯ เพื่อแนบรายงานของ กมธ.ฯ เพื่อส่งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยคะแนน 412 ต่อ 25 เสียง ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง 20 เสียง ขณะที่รายงานของ กมธ.ฯ ไม่มีการลงมติ จึงทำให้สภาฯ ส่งรายงานทั้งฉบับและข้อสังเกต กมธ.ที่ถูกท้วงติงให้ ครม.พิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย

เร่งคุมเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มควันพวยพุ่ง

ลาดกระบัง 12 พ.ค.- ระดมกำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ล่าสุดยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก คาดความเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อเวลา 16.24 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนฉลองกรุง ขนานข้างเป็นแนวยาวติดกับแนวซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นโรงงาน 2 ชั้น แนวราบยาวจากพื้นดิน ยกพื้นสูงเป็นชั้นลอย โดยทำห้องใต้ดินไว้เก็บของและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงตัวสินค้า หากเข้ามาในซอยฉลองกรุง 55 จะเป็นพื้นกำแพงของตัวโรงงานอยู่ด้านขวามือ จุดต้นเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปผจญเหตุ เล่าว่า อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน หลังจากเกิดเหตุไม่สามารถที่จะลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูงต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษรวมถึงหน้ากากออกซิเจน ในการเข้าไป โดยจะเห็นได้ว่าตามช่องต่างๆ (ช่องกำแพง ช่องท่อ ช่องประตู) ก็จะมีกลุ่มควันนั้นลอยขึ้น และออกมาด้านนอก มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ ต้องรอให้เหตุการณ์สงบลง ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตลาดกระบัง ร่วมกับ สน.ฉลองกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตความรับผิดชอบ ก็จะมีการเรียกพูดคุย และสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ รวมถึงการประเมินมูลค่าทรัพย์สินความเสียหาย โดยตอนนี้ทางเจ้าของโรงงานได้ทราบเรื่องแล้ว ทางด้าน กรุงเทพมหานคร […]

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย