ภูมิภาค 3 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคเหนือและอีสานยังน่าห่วง โดยที่ จ.ยโสธร น้ำเอ่อล้นตลิ่งทะลักท่วมถนนลาดยาง ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ปิดถนนชั่วคราว ห้ามรถทุกชนิดใช้เส้นทางดังกล่าว หวั่นเกิดอันตราย
ถนนทางหลวงชนบท หลักกิโลเมตรที่ 6 ซึ่งเป็นถนนลาดยางเชื่อมต่อระหว่าง อ.เมือง ไปยัง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ถูกกระแสน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วม ความยาวประมาณ 300 เมตร ความลึกของน้ำเฉลี่ย 40-50 เซนติเมตร ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองคู ได้นำกรวยยางจราจรและแผงป้ายไปติดตั้ง ห้ามรถทุกชนิดใช้เส้นทางดังกล่าว หวั่นเกิดอันตราย
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่คลองชลประทาน หมู่บ้านมิตรสัมพันธ์ 2 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่ 7 ในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากเขตตัวเมืองขอนแก่น หลังจากเมื่อวานมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า วันนี้ทางจังหวัดจะต้องติดตามการรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ถึงอิทธิพลของพายุคาจิกิ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักคล้ายกับเมื่อวันก่อน สิ่งที่จะเตรียมการในขณะนี้ คือ การพร่องน้ำออกจากบึงหนองโคตร เพื่อรองรับน้ำที่จะเติมเข้ามาใหม่ หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ทันที
ขณะที่หลายจังหวัดเร่งพร่องน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนตกหนัก โดยที่ จ.สกลนคร เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจับตาสถานการณ์น้ำในหนองหาร และมีการปักธงสีน้ำเงิน คือ สถานการณ์เฝ้าระวัง เพราะน้ำล้นสปิลเวย์ที่ประตูน้ำสุรัสวดี โดยระดับน้ำล่าสุดอยู่ที่ 294 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุ 266 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 110 เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากพายุโพดุล และมีแนวโน้มเพิ่มสูงจากพายุคาจิกิ นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณสะพานบ้านด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ เพื่อผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วขึ้น พร้อมแจ้งเตือนประชาชนปลายลำน้ำก่ำให้ระวังระดับน้ำ
ส่วนที่ จ.มหาสารคาม ชลประทานจังหวัดฯ เตือนประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำชี เตรียมรับมวลน้ำที่เพิ่มขึ้นจากน้ำชีล้นตลิ่ง เนื่องจากอิทธิพลของพายุคาจิกิ ทำให้ฝนตกไม่หยุด และแม่น้ำชีไหลเร็วแรงมาก ภาพรวมใน 4 อำเภอริมฝั่งแม่น้ำชี จะประสบกับภาวะน้ำล้นตลิ่ง เพราะฝนตกตลอดทั้งคืน โดยภาพรวมระดับน้ำชีหน้าเขื่อนวังยาง เช้านี้เหลือแค่ 0.84 เมตร จะถึงระดับวิกฤติที่ 139 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืด ทำให้น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ โดยที่บ้านสุขสวัสดิ์ และบ้านกุดอ้อ ซึ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในลำน้ำปาว ต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง นอกจากนี้ ระดับน้ำยังไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่บ้านทุ่งสว่าง และบ้านวังเกาะเหล็ก ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ 100 ครัวเรือน ส่วนสถานการณ์อ่างเก็บน้ำห้วยสีทน ในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งมีปริมาณเกินระดับกักเก็บ ยังคงท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ 21 ชุมชน รวม 1,500 ครัวเรือน ล่าสุดโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำลำปาวขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมอพยพ
พื้นที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เกิดฝนตกหนักสะสม ตั้งแต่เย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา วัดปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ได้ถึง 113.8 มิลลิเมตร ทำให้น้ำจากลำห้วยต่างๆ ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำยม มีระดับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา และทะลักเข้าท่วมทางหลวงหมายเลข 101 สูงเม่น-เด่นชัย ใกล้กับศูนย์ไปรษณีย์เด่นชัย ระดับน้ำสูง 30-60 เซนติเมตร
ส่วนหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับทางน้ำไหลผ่าน เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว บ้านเรือนในพื้นที่ ต.เด่นชัย ต.แม่จั๊วะ และ ต.ปงป่าหวาย ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับกองพันทหารม้าที่ 12 ช่วยเหลือราษฎรอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
นายศรชัย สุวรรณกาศ นายกเทศมนตรีตำบลเด่นชัย ร่วมกับผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร และกำลังทหาร ออกช่วยเหลือประชาชนอพยพผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง โดยในบางพื้นที่ระดับน้ำยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากลำน้ำแม่พวกจาก ต.ห้วยไร่ จะไหลมาสมทบ เพื่อลงสู่แม่น้ำยมที่ ต.ปงป่าหวาย กระทั่งเวลา 08.00 น. วันเดียวกัน ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนได้ลดลง แต่บางแห่งยังท่วมขังสูง เนื่องจากไม่มีที่ระบายน้ำ ทางเทศบาลฯ ระดมเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบน้ำออก. – สำนักข่าวไทย