เตือน!!คนโพสต์ชวนไป”แข่งซิ่ง”ผิดฐานเป็นผู้จัด

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- ตำรวจเตือนคนเล่นโซเชียลระวังให้ดี ใครโพสต์คลิปชวนไปแข่งรถซิ่ง ระวังถูกดำเนินคดีฐานเป็นผู้จัด สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทาง ส่วนใครโพสต์จะไปด้วย ระวังเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งโทษคือจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000-20,000 บาท


หลังจากที่วานนี้มีการประชุมคณะกรรมการบูรณาการความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนน และกำหนดให้วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มรับคลิปเบาะแสการแข่งรถในทางสาธารณะ หรือผู้ที่มีพฤติกรรมแข่ง หรือขับรถซิ่ง ประมาทหวาดเสียว ซึ่งผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดได้ ตำรวจก็จะมีเงินรางวัลให้คดีละ 3,000 บาท


พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่พบมีผู้ส่งคลิปเบาะแสเข้ามา แต่ก็ยังมีการร้องเรียนปัญหาให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งต้องรอช่วงปลายสัปดาห์ที่มักมีการลักลอบขับรถซิ่งประลองความเร็ว ก็คาดว่าจะเริ่มมีผู้ทยอยแจ้งเบาะแส แต่จากข้อมูลการข่าว พบว่าภาพรวมทั้งประเทศปัจจุบันเหลือผู้กระทำผิดเพียง 10-15% เท่านั้น เช่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะเหลือให้เห็นในพื้นที่ฝั่งธนบุรี และถนนราชพฤกษ์ซึ่งมีถนนทางยาว ส่วนวันนี้ก็มีการประชุมชุดย่อยร่วมกับคณะทำงานรับเรื่องร้องเรียนผ่านหมายเลข 1599 ซึ่งเป็นสายด่วนของ บก.02 กองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งจะชี้แจงในที่ประชุมเพิ่มเติมหลายเรื่อง โดยเฉพาะการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กชักชวน หรือชี้นำให้คนไปแข่งรถซิ่ง และผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น ซึ่งตำรวจได้รวบรวมลักษณะการโพสต์ข้อความที่อยู่ในข่ายความเสี่ยงต่างๆ ไว้จำนวนหนึ่งแล้ว เช่น ลักษณะที่มีการนำคลิปการแข่งซิ่งบนท้องถนน / การเร่งเครื่องยนต์ส่งเสียงดัง พร้อมข้อความสั้นๆ ซึ่งอาจพูดถึงเวลา หรือสถานที่ ที่ส่อให้เห็นว่าจะมีการชักชวน ผู้ที่โพสต์ในลักษณะนี้โดยเฉพาะในกลุ่มลับ หรือกลุ่มปิด ทั้งในเฟซบุ๊ก และในกลุ่มไลน์ ก็จะถูกดำเนินคดีฐานเป็นผู้จัด สนับสนุน หรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทาง 

ส่วนผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะส่งสติ๊กเกอร์ หรือพิมพ์ข้อความตอบรับว่าจะไปด้วย และผู้ที่แชร์ข้อความส่งต่อ ก็จะเข้าข่ายในความผิดนี้ด้วย ซึ่งอัตราโทษกฎหมายระบุว่า จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่เข้าไปกดไลค์ข้อความก็จะพิจารณาว่า ต้องถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง