ม.เอแบค หัวหมาก 10 ส.ค.-เอแบคเสนอชื่อกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ 13 คน คาด รมว.ศธ.แต่งตั้งแล้วเสร็จไม่เกินพรุ่งนี้ ส่วนการตรวจสอบความไม่โปร่งใส ไม่พบทุจริต เพียงเจ้าหน้าที่บกพร่องการปฏิบัติหน้าที่
นายธนู กุลชล ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีคำสั่งยกเลิกการควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หลังแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของสภามหาวิทยาลัยและตรวจสอบความไม่โปร่งใสใน 3 เรื่อง ได้เเก่ เรื่องการจัดซื้อเครื่องฝึกบินจำลอง เอเเบคโพลล์เเละการจัดทำงบการเงินเเละทรัพย์สิน ว่า ขณะนี้มูลนิธิเซนต์คาเบรียล ผู้ได้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้เสนอชื่อสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ 13 คน ประกอบด้วย ภราดาสุรสิทธิ์ สุขชัย ประธานมูลนิธิเซนต์คาเบรียล เสนอตัวเป็นนายกสภามหาวิทยาลัย ส่วนอีก 12 คน คือ กรรมการบริหารมูลนิธิ 4 คน ภราดา 5 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี 1 คนคือนายอภิมุข สุขประสิทธิ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษเเละผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย 1 คน คือนายสมชาย วงศ์ทรัพย์สิน
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการเสนอชื่อกรรมการสภามหาวิทยาลัย 3 คน คือนางนวลพรรณ ล่ำซำ อดีตรองเลขาธิการห อการค้าไทย นายวิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์เเละการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เเละนายจตุรนต์ ถิระวัฒน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเซ็นคำสั่งแต่งตั้ง คาดจะแล้วเสร็จไม่เกินพรุ่งนี้
ขณะที่ในวันที่ 16 สิงหาคม อาจมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งอธิการบดีคนใหม่ ทำให้สภามหาวิทยาลัยมีทั้งหมด 17 คน และตนก็จะหมดหน้าที่รักษาการอธิการบดีทันที
สำหรับเรื่องการตรวจสอบความไม่โปร่งใสใน 3 เรื่องนั้น พบว่าโครงการจัดซื้อเครื่องฝึกบินจำลอง ทำให้มหาวิทยาลัยขาดทุนกว่า11.18 ล้านบาท พบว่าไม่มีพฤติการณ์ทุจริตของภราดาบัญชา แสงหิรัญ ทำไปเพื่อการศึกษา โดยเงินที่ขาดทุนคือเงินที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ มีการทำเรื่องเบิกเงินโดยใช้ชื่อของตนเองไม่ใช่ในนามมหาวิทยาลัย เนื่องจากการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นการร่วมหุ้นกับบริษัทอื่นใช้ชื่อมหาวิทยาลัยไม่ได้ และภราดาบัญชาก็ได้ขอโทษและให้สัตยาบันต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องก็จบด้วยดี , เอเเบคโพลล์ ไม่พบการทุจริตแต่พบความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ดำเนินการโดยพลการไม่ผ่านการตัดสินใจของสภามหาวิทยาลัย ทำให้เงินหายประมาณ 5 ล้านบาทไม่ใช่ 48 ล้านบาทอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ได้แสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากตำแหน่ง และการจัดทำงบการเงินเเละทรัพย์สิน พบเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยพลการ ไม่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัย ซึ่งปัญหาที่พบทั้งหมด ทำให้มหาวิทยาลัยต้องปรับแก้กฎระเบียบเพื่อการดำเนินการแก้ปัญหาภายในมหาวิทยาลัยให้รัดกุมมากขึ้น
ส่วนข้อบังคับที่คณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยเสนอให้มหาวิทยาลัยปรับปรุงข้อระเบียบ 4 ข้อนั้น ได้แก่ ข้อบังคับว่าด้วยการได้มาซึ่งนายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งไม่เคยมีในข้อบังคับเดิม ข้อบังคับว่าด้วยการได้มาและสิ้นสุดสภาพของกรรมการสภามหาวิทยาลัย ข้อบังคับว่าด้วยการได้มา ซึ่งอธิการบดี กำหนดชัดควรเป็นนักบวช ซาบซึ้งในเจตนารมณ์ของมูลนิธิและมีวาระการทำงาน 10 ปี และข้อบังคับว่าด้วยการประชุมสภามหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยก็ได้ปรับข้อบังคับตามที่ได้เสนอมาครอบถ้วนแล้ว-สำนักข่าวไทย