เผยน้ำท่วม 12 จังหวัด รถผ่านไม่ได้ 7 แห่ง

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – กรมทางหลวงเผยน้ำท่วม 12 จังหวัด รถผ่านไม่ได้ 7 แห่ง เฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย


กรมทางหลวงสรุปเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุลวันที่ 31 สิงหาคม 2562 เวลา 12.00 น. โดยทางหลวงมีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ทั้งสิ้น  12 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ แพร่ พิจิตร อุตรดิตถ์ อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร มุกดาหาร และอำนาจเจริญ  ผ่านได้ 24 แห่ง ผ่านไม่ได้ 7 แห่ง   


ทั้งนี้ จังหวัดเพชรบูรณ์  2 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 21 บ้านโตก – มุ้งน้ำเต้า อ.กุมวาปี ช่วงกม.ที่ 216 ระดับน้ำสูง 20 ซม.ทางหลวงหมายเลข 21 บ้านโตก – มุ้งน้ำเต้า อ.กุมวาปี ช่วงกม.ที่ 236 ระดับน้ำสูง 15 ซม., จังหวัดแพร่ 1 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 1214 น้ำอ่าง – วังผาชัน อ.ทองแสนขัน ช่วงกม.ที่ 44 – 45 ระดับน้ำสูง 25 – 30 ซม. การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก, จังหวัดพิจิตร 1 แห่ง  ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 11 เขาทราย – สากเหล็ก อ.ทับคล้อ ช่วงกม.ที่ 135 -136 ระดับน้ำสูง 30 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้, จังหวัดอุตรดิตถ์ 1 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 129 ทางเลี่ยงเมืองแพร่ อ.เมืองแพร่ ช่วงกม.ที่ 8 – 9 ระดับน้ำสูง 15 ซม., จังหวัดอุดรธานี 1 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 2 น้ำฆ้อง – อุดรธานี อ.กุมวาปี ช่วงกม.ที่ 420 ระดับน้ำสูง 15 ซม.

จังหวัดขอนแก่น 5 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 2 พล – บ้านไผ่ อ.พล ช่วงกม.ที่ 281 -283 ระดับน้ำสูง 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ในช่องทางซ้าย เบี่ยงการจราจรให้วิ่งสวนกันในช่องทางขวา ทางหลวงหมายเลข 2 พล – บ้านไผ่ อ.พล ช่วงกม.ที่ 293 -294 ระดับน้ำสูง 100 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 23 บ้านไผ่ – ไพศาล ช่วงกม.ที่ 1 – 4 ระดับน้ำสูง 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ทางหลวงหมายเลข 229 บ้านไผ่ – มัญจาคีรี อ.บ้านไผ่ ช่วงกม.ที่ 0 – 1 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2297 บ้านลาน – เปือยน้อย อ.เปือยน้อย ช่วงกม.ที่ 1 น้ำกัดเซาะทางขาด การจราจรไม่สามารถผ่านได้


จังหวัดกาฬสินธุ์ 3 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 12 ห้วยสีดา – ปากทางเขื่อนลำปาว อ.ยางตลาด ช่วงกม.ที่ 606 – 607 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 12 หนองผ้าอ้อม – สี่แยกสมเด็จ อ.สมเด็จ ช่วงกม.ที่ 665 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 227 กาฬสินธุ์ – แยกดงแหลม อ.เมืองกาฬสินธุ์ ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง  50 ซม. 

จังหวัดร้อยเอ็ด 8 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 23 ห้วยแอ่ง – ร้อยเอ็ด อ.เมืองร้อยเอ็ด ช่วงกม.ที่ 103 – 104 ระดับน้ำสูง 25 ซม. ทางหลวงหมายเข 214 ร้อยเอ็ด – จตุรพักตรพิมาน อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 62 – 63 ระดับ   น้ำสูง 15 – 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 214 จตุรพักตรพิมาน – ห้วยพลับพลา อ.จตุรพักตรพิมาน ช่วงกม.ที่ 74 – 75 ระดับน้ำสูง 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 215 ร้อยเอ็ด – สุวรรณภูมิ อ.สุวรรณภูมิ ช่วงกม.ที่ 1 – 2 ระดับน้ำสูง 13 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำสูง 10 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 15 – 16 ระดับน้ำสูง 45 ซม. ทางหลวงหมายเลข 232 ถนนวงแหวนรอบเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง ช่วงกม.ที่ 25 – 66 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2044 ร้อยเอ็ด – หนองดง อ.โพนทอง ช่วงกม.ที่ 0 – 1 ระดับน้ำสูง 40 ซม. จังหวัดมหาสารคาม 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 23 ไพศาล – บรบือ – มหาสารคาม อ.กุดรัง ช่วงกม.ที่ 30 – 31 ระดับน้ำสูง 5 ซม. ช่วงกม.ที่ 52 – 54 ระดับน้ำสูง 10 – 40 ซม. ทางหลวงหมายเลข 213 มหาสารคาม – หนองขอน อ.เมืองมหาสารคาม ช่วงกม.ที่ 5 ระดับน้ำสูง 10 ซม. (อุโมงค์ทางลอด) ช่วงกม.ที่ 8 ระดับน้ำสูง 30 ซม. ช่วงกม.ที่ 20 ระดับน้ำสูง 20 ซม. ทางหลวงหมายเลข 219 ยางสีสุราช – พยัคฆภูมิพิสัย อ.พยัคฆภูมิพิสัย ช่วงกม.ที่ 49 ระดับน้ำสูง 15 ซม. ทางหลวงหมายเลข 219 ยางสีสุราช – พยัคฆภูมิพิสัย อ.พยัคฆภูมิพิสัย ช่วงกม.ที่ 71 ระดับน้ำสูง 20 ซม. 

จังหวัดยโสธร 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2259 เสลภูมิ – คำโพนสูง อ.เสลภูมิ ช่วงกม.ที่ 9 ระดับน้ำสูง 10 ซม. จังหวัดมุกดาหาร 3 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 212 นาโพธิ์ – ห้วยสะแบก อ.นิคมคำสร้อย ช่วงกม.ที่ 444 ระดับน้ำสูง 90 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงถนนทางหลวงชนบท สาย โคกหินกอง และใช้ทางหลวงหมายเลข 2370 ไปหนองสูงแทน  ทางหลวงหมายเลข 212 ย้อมพัฒนา – นาโพธิ์ อ.เมืองมุกดาหาร ช่วงกม.ที่ 414 – 416 ระดับน้ำสูง 30 ซม. ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ อ.ดงหลวง ช่วงกม.ที่ 22 ระดับน้ำสูง 50 ซม. และจังหวัดอำนาจเจริญ 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 212 ห้วยสะแบก – อำนาจเจริญ ช่วงกม.ที่ 510 ระดับน้ำสูง 60 ซม.การจราจรไม่สามารถผ่านได้(ซ้ายทาง)

ทั้งนี้ กรมทางหลวง ได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทางบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากต้องการ

สอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ และ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)

ด้านศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำ 30 สิงหาคม ว่า พายุโซนร้อนโพดุลปกคลุมบริเวณ จ.นครพนม จ.สกลนคร อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นเมื่อเวลา 13.00 น. โดยมีการเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกและกำลังเคลื่อนผ่านบริเวณ จ.อุดรธานี ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์วันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

ทั้งนี้ มีฝนตกหนักมากบริเวณ อ.เมือง (325) อ.ธวัชบุรี (298) จ.ร้อยเอ็ด , อ.เลิงนกทา (256)  อ.เมือง (144) อ.ไทยเจริญ (158) อ.กุดชุม (136) จ.ยโสธร , อ.เมือง (222) จ.มุกดาหาร , อ.กมลาไสย (199) อ.นาคู (134) อ.นามน (133) จ.กาฬสินธุ์ ,อ.บรบือ (189) อ.โกสุมพิสัย (183) อ.นาเชือก (177) จ.มหาสารคาม , อ.สิรินธร (160)  จ.อุบลราชธานี / อ.พล (142) จ.ขอนแก่น / อ.คง (141) จ.นครราชสีมา 

ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่สามารถรองรับน้ำฝนที่ตกได้ทุกแห่ง ยกเว้น หนองหาร จ.สกลนคร มีความเสี่ยงน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม อ.เมือง จ.สกลนคร ปัจจุบันมีความจุ 95% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำสุรัสวดีเต็มศักยภาพการระบายน้ำ ส่วนแหล่งน้ำขนาดกลางตามแนวที่พายุดีเปรสชั่นเคลื่อนตัวผ่านที่เสี่ยงน้ำล้นแหล่งน้ำรวม 30 แห่ง ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด 1 แห่ง จ.ยโสธร 1 แห่ง จ.มุกดาหาร  9 แห่ง จ.กาฬสินธุ์ 9 แห่ง จ.นครราชสีมา 1 แห่ง และ จ.อุบลราชธานี 9 แห่ง  

แม่น้ำสายหลัก จากปริมาณฝนที่ตกหนักเนื่องจากอิทธิพลพายุโพดุลมีลำน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำล้น ได้แก่ แม่น้ำน่าน แม่น้ำชี แม่น้ำมูล ลำน้ำสงคราม ลำน้ำยัง ลำน้ำเซบาย ลำน้ำก่ำ และลำน้ำห้วยหลวง ปัจจุบันมีน้ำล้นตลิ่ง ได้แก่ ลำน้ำสงคราม อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ต่ำกว่าตลิ่ง 0.19 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงกว่าตลิ่ง สูงสุดในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 และจะกลับสู่ภาวะปกติวันที่ 3 กันยายน 2562, ลำน้ำยัง บริเวณ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด สูงกว่าตลิ่ง 0.70 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงสุด 1.5 เมตร วันที่ 2 ก.ย.62 และจะกลับสู่ภาวะปกติวันที่ 5 ก.ย.62 และบริเวณ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด สูงกว่าตลิ่ง 2.4 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.25 เมตร และจะกลับสู่ภาวะปกติในวันที่ 5 ก.ย.62 

ลำเซบาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร สูงกว่าตลิ่ง 1.60 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงสุด 2.00  เมตร วันที่ 31 ส.ค.62 คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติวันที่ 7 กันยายน 2562 และบริเวณ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี สูงกว่าตลิ่ง 0.40 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงสุด 1.00 เมตร วันที่ 31 สิงหาคม 2562 และจะกลับสู่ภาวะปกติวันที่ 3 กันยายน 2562 , ลำน้ำก่ำ บริเวณ อ.โพนนาแก้ว และ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ระดับเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการวางกระสอบทรายป้องกันน้ำเอ่อล้น, แม่น้ำโขง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4 – 10 เมตร จากการคาดการณ์ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1 – 2  เมตร วันที่ 31 สิงหาคม – 5 กันยายน 2562 

จากรายงาน ปภ.สถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ 22 – 29 สิงหาคม เกิดเหตุน้ำท่วม 16 จังหวัด 33 อำเภอ 57 ตำบล 88 หมู่บ้าน ปัจจุบันสถานการณ์ยุติแล้วทุกพื้นที่ แต่วันที่ 30 สิงหาคม เวลา 10.00 น. เกิดเหตุน้ำท่วม 3 จังหวัด 3 อำเภอ 3 ตำบล  (อำนาจเจริญ ปราจีนบุรี หนองคาย) และเมื่อเวลา 16.00 น. เกิดน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 2 จังหวัด ได้แก่ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด และ อ.กระบุรี จ.ระนอง.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ภท.” เปิดประวัติ-ผลงาน “อนุทิน” แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 32

กทม. 3 ก.ย.- “พรรคภูมิใจไทย” โพสต์ประวัติ-ผลงาน “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย ที่รัฐสภา โดยมีพรรคประชาชนประกาศสนับสนุน พร้อมรายชื่อ สส. 146 คน ร่วมสนับสนุนให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ล่าสุด เพจพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ภาพและประวัตินายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ทันที โดยระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 การศึกษา2527 : โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ2528 : Worcester Academy, Massachusetts U.S.A.2532 : B.S. in Industrial Engineering, Hofstra […]

น้ำป่าดอยสุเทพทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่

3 ก.ย. – ฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากดอยสุเทพหลากเข้าท่วมชุมชนในเชียงใหม่กลางดึก ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวเก็บข้าวของไม่ทันต้องปล่อยจมน้ำ ขณะที่น้ำท่วมหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงแล้วทิ้งไว้แต่ความเสียหายเป็นวงกว้าง น้ำป่าจากดอยสุเทพ ที่หลากมาตามลำห้วยช่างเคี่ยน ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าในชุมชนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึก ระดับน้ำที่ท่วมตั้งแต่ 30 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทันได้ตั้งตัว เก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ทัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องปล่อยให้จมน้ำไป บางส่วนที่พึ่งกลับจากการทำงานต้องเดินฝ่าน้ำท่วมเข้าไปเก็บทรัพย์สินในบ้านเท่าที่จะทำได้ รถยนต์หลายคันเคลื่อนย้ายไม่ทันจมอยู่ในน้ำ โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำมาเร็วและแรง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ถูกน้ำท่วม นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก เร่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำออกจากชุมชนลงคลองชลประทาน พร้อมระบุสาเหตุน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจาก การสร้างสะพานข้ามคลองชลประทานและมีการปิดท่อระบายน้ำไว้ ทำให้น้ำป่าที่หลากลงมาท่วมไม่สามารถระบายได้ ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเช้าวันนี้ ซึ่งน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเร่งสำรวจความเสียหายโดยบางส่วนยังยกข้าวของไว้บนที่สูงไว้ก่อนจนกว่าจะหมดหน้าฝน ส่วนน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักที่เพชรบูรณ์ มา 3 วัน ระดับน้ำที่เคยท่วมสูงถึง 1 เมตร ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในเช้าวันนี้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านอำเภอหล่มเก่าลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำกว่า 1 เมตร […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้

รัฐสภา 3 ก.ย.-เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้ เหตุรอศาล รธน.ตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หลัง 20 สส.เพื่อไทย ยื่นปมตุลาการพ้นวาระ คดี “แพทองธาร” และความชัดเจนยุบสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมสองฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยใช้เวลาหารืออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า เนื่องจากมี สส.20 คน ของพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายต่อกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากข้อเท็จจริงที่พบว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา […]