ชลประทานเร่งบรรเทาอุทกภัยจากพายุโพดุล

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – พายุโพดุลถล่มอีสานน้ำท่วมหลายจังหวัด กรมชลฯ เร่งระบายน้ำพื้นที่เกษตร เพื่อไม่ให้นาข้าวเสียหาย ระดมกระสอบทรายทำพนังป้องกั้นพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุโพดุล โดยจังหวัดร้อยเอ็ด มีพื้นที่น้ำท่วมด้านฝั่งซ้ายของลำน้ำสูงเฉลี่ย 1.78 เมตรอำเภอเสลภูมิ เมยวดี และโพนทองประมาณ 53,502 ไร่  ซึ่งได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 ว่า น้ำในลำน้ำยังที่ไหลจากจังหวัดกาฬสินธุ์มาสมทบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมในพื้นที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำล้นตลิ่งบริเวณไม่มีพนังกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงได้ระดมเครื่องจักรเครื่องมือเข้าเสริมความมั่นคงแข็งแรงของพนังกั้นน้ำยัง สำรวจหาจุดรั่วซึมของพนังกั้นน้ำยัง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำยังบ้านกุดเรือตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ และจัดเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันประจำจุดเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามสภาพน้ำและตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของคันกั้นน้ำยัง 

นายทองเปลว กล่าวว่า ขณะนี้เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม เพื่อไม่ให้นาข้าวเสียหายและโครงการชลประทานทั้ง 12 แห่งในเขตความรับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 6 ทั้ง 5 จังหวัด คือ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ช่วยกันระดมกระสอบทรายกว่า 6,000 ใบ เข้าไปเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำป้องกันพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนพื้นที่เกษตรที่มีน้ำท่วมขณะนี้กำลังเร่งระบายออกเพื่อไม่ให้นาข้าวเสียหาย 


ส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์มีฝนตกหนักวัดได้ถึง 139 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำห้วยผึ้งซึ่งมั่นคงแข็งแรงปลอดภัยดี สำหรับสถานการณ์น้ำที่สูงถึงทางระบายน้ำล้น (Spillway) อ่างเก็บน้ำห้วยสีทนล้นตลิ่งและไหลล้นข้ามถนนสายกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ ทำให้การจราจรติดขัด นอกจากนี้ ได้หารือกับเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์และหน่วยงานต่าง ๆ วางแผนแก้ไขปัญหา กำหนดจุดระบายฉุกเฉิน ตรวจสอบพื้นที่ เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ชุมชน

สำหรับจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อป้องกันอุทกภัยในพื้นที่เศรษฐกิจ อำเภอเมือง ขอนแก่น 11 เครื่อง ซึ่งพร้อมเดินเครื่องเร่งระบายน้ำทันทีหากมีน้ำท่วมขัง จังหวัดมุกดาหาร ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณสนามกีฬากลางและถนนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม และมีน้ำมาเติมในลำน้ำสถานการณ์น้ำจะระบายน้ำได้หมดใน 1-2 วัน ด้านจังหวัดอุบลราชธานีมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร หมู่ที่ 18 ตำบลโนนสวาง อำเภอข้าวปุ้น ได้เร่งสูบน้ำออก คาดว่า จะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3-4 วัน 

นายทองเปลว กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภาคเหนือว่า จังหวัดพิษณุโลก เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมหมู่ที่ 2 3 และ4 ตำบลบ้านมุงและหมู่ที่ 2 3 และ5 ตำบลวังยาง อำเภอเนินมะปราง ซึ่งโครงการชลประทานพิษณุโลกเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ 82 เครื่องไว้ก่อนแล้ว จึงเร่งระบายน้ำออกได้ทันที ขณะนี้สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากมีปริมาณฝนตกในพื้นที่ลดน้อยลง และคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์ จังหวัดชัยนาทฝนตกหนักและน้ำที่มากขึ้นได้กัดเซาะดินคันคลองฝั่งซ้ายทรุดตัวของคันคลองฝั่งซ้ายของคลองมะขามเฒ่า-กระเสียวเกิดการทรุดตัว ทำให้น้ำรั่วซึมข้างแผ่นคอนกรีตด้านซ้ายเป็นบางจุด โดยแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเสียหายเพิ่มเติม เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรรวมถึงการลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร ขณะนี้ดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว จังหวัดนครนายกมีน้ำหลากในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาขุนด่านปราการชล เจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว 1 เครื่อง ไปติดตั้งที่ หมู่ 1 ตำบลพรหมมณี อำเภอเมือง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาแล้ว


ส่วนภาคตะวันออกมีฝนตกหนักจังหวัดสระแก้วตรวจวัดได้ถึง 186 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณสะพานคุ้มบ้านโป่งดาวเรือง หมู่ 6 ตำบลหนองบอน อำเภอเมืองสระแก้ว ซึ่งอยู่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำท่ากระบากท่วมถนนประมาน 15 เซนติเมตร สวนยูคาลิปตัสประมาณ 100 ไร่ บ้านเรือน 3 หลัง ปัจจุบันระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะระบายน้ำหมดวันนี้

นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า พายุโพดุลทำให้เกิดฝนตกชุกหลายพื้นที่ส่งผลดีต่อพื้นที่เกษตรที่ประสบภัยแล้ง เช่น ขอนแก่น ชัยภูมิ และมหาสารคาม ต้นข้าวที่ขาดน้ำในช่วงฝนทิ้งช่วงมีน้ำหล่อเลี้ยง ลดความเสียหายของผลผลิตข้าวได้อย่างมาก ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่ง เริ่มมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ มากขึ้น ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในอ่างฯ เพิ่มขึ้น คาดว่าจะทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอ สำหรับสนับสนุนกิจกรรมการใช้น้ำไปจนถึงฤดูแล้งหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]