ปทุมธานี 30 ส.ค.-ตำรวจรวบลูกชายวัย 18 แทงแม่บาดเจ็บ สารภาพกดดันถูกแม่ดุด่า-ใช้ไม้ทุบตี ประกอบกับป่วยไบโพลาร์ แต่ไม่ได้รักษาต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้ เกิดเหตุน่าสลด พบแม่อายุ 49 ปี ถูกลูกชายทำร้ายร่างกายใช้มีดแทงที่กลางหลัง และใต้ราวนมซ้าย 2 แผล จนตัวเองเจ็บปวดทรุดกองกับพื้นภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในหมู่บ้านย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถูกนำตัวส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผู้เป็นแม่ให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือลูกชายตนเองมีชื่อว่า นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี สาเหตุเกิดความไม่พอใจที่ถูกบ่นและใช้งาน จึงเข้าตบตีทำร้ายร่างกายตนจนข้าวของกระจัดกระจาย ระหว่างนั้นยายซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงพยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล หลังก่อเหตุลูกชายไม่สนใจขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป
ล่าสุด ตำรวจ สภ.คลองหลวง จับกุมนายเอ ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีความผิดฐานพยายามฆ่าบุพการีได้แล้ว ผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนเป็นคนก่อเหตุที่ใช้มีดแทงแม่ของตนเองจริงเนื่องจากควบคุมสติไม่อยู่เพราะเกิดจากความถูกกดดันจากแม่มาตลอด เห็นหน้ากันทุกครั้งจะดุด่ากระทบไปถึงพ่อ ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้วไม่รู้ว่าแม่เกลียดตนเรื่องอะไรหรือเกลียดที่พ่อให้กำเนิดตนเองมา ยอมรับว่าแทงไปครั้งเดียวที่ทำไปนั้น เพราะแม่ได้มาด่าทอตนและใช้ไม้ไผ่ขนาดใหญ่ตีตนก่อน ตนจึงป้องกันตัว ประกอบกับตนก็เป็นโรคไบโพลาร์ด้วยซึ่งก็ต้องกินยาอยู่ตลอดแต่ก็ไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่อง และอยากจะกราบเท้าแม่ขอโทษแม่ที่ตนเองทำไปแบบนี้ซึ่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ
จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยจิตเวชกว่า 700,000 คน และมีผู้ป่วยโรคอารมณ์แปรปรวนหรือ ไบโพลาร์ ดิสออร์เดอร์ – Bipolar Disorder กว่า 30,000 คน มาพบแพทย์เพียง 1 เปอร์เซนต์ ยังมีผู้ป่วยอีกมากที่ไม่ได้มาพบแพทย์ ผู้ป่วยจะมีอาการแปรปรวนอยู่ระหว่างช่วงอารมณ์คลั่งที่จะมีพลัง มีความสุขสุดขีด และอารมณ์ซึมเศร้า ที่จะหมดแรง ไร้กำลังใจ จนถึงอยากตาย แต่ละช่วงจะมีอาการต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ 2 สัปดาห์-1 เดือน โรคไบโพลาร์ไม่เพียงแค่อารมณ์แปรปรวน จนเป็นปัญหาส่วนตัวเท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ แสดงความรุนแรงกับผู้อื่น อย่างร้ายแรง คือ ฆ่าตัวตาย การรักษาโรคไบโพลาร์หลักๆ คือการใช้ยา ควบคู่กับการทำจิตบำบัด ซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่โรคที่รักษายาก แต่สิ่งที่ยากคือการพาตัวเองไปรักษา.-สำนักข่าวไทย