อุดรธานี 30 ส.ค. – หนุ่มชาวลาวออกล่าสัตว์ในป่า จ.อุดรธานี เห็นพุ่มไม้ไหวคิดว่าเป็นหมูป่า จึงคว้าปืนยิง ปรากฏว่าโดนเพื่อนเสียชีวิต เสียใจเหนี่ยวไกปืนยิงตัวตายตาม
เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ ที่กลางหุบเขาบริเวณจุดชมวิว หมู่ที่ 10 บ้านนาเมืองไทย ต.น้ำโสม จึงนำกำลังตำรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.น้ำโสม และเจ้าหน้าที่กู้ภัย รุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่กลางหุบเขา เขตติดต่อกับ อ.ปากชม จ.เลย เจ้าหน้าที่ต้องเดินทางผ่านภูเขาสูงชันด้วยรถอีแต๊ก และเดินเท้าเข้าไปประมาณ 5 กม. พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 คน นอนอยู่ข้างกัน ทราบชื่อภายหลังว่า นายบุญ แก้ววิไล อายุ 24 ปี และนายเคน วิละนี อายุ 25 ปี คนลาวจากเมืองหลวงพระบาง สปป ลาว สภาพศพนอนหงาย นายเคน สวมเสื้อคอโปโลสีน้ำตาล ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านซ้าย พบอาวุธปืนแก๊ปวางอยู่ข้างศพ ส่วนนายบุญ สวมเสื้อยืดโปโลแขนยาวสีน้ำเงิน มีกระเป๋าคาดเอว ไม่สวมรองเท้า พบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนลูกปรายที่เหนือคิ้วขวาและใบหน้า โดยมีอาวุธปืนแก๊ปยาววางพาดอยู่บริเวณขา ที่ฝ่ามือซ้ายมีแผลถูกยิงทะลุ
ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ข้างศพพบกระเป๋าผ้า ภายในพบขวดพลาสติกบรรจุดินปืน ขวดแก้วบรรจุกระสุนลูกปราย แก๊ป เปลือกมะพร้าว ไฟแช็ก และพบขวดน้ำ หมวกไหมพรม ตกในที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก.สภ.น้ำโสม เปิดเผยว่า จากการสอบสวนชาวบ้านทราบว่า นายเคน และนายบุญ เป็นราษฎรชาวลาว เป็นเพื่อนรักกัน ชวนกันมาทำงานกรีดยางที่บ้านนาเมืองไทย และนอนอยู่ในสวนยาง ทั้งสองมักจะชวนกันเข้าป่าไปล่าหมูป่ามาทำอาหารเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุวันที่ 27 สิงหาคม ทั้งสองชวนกันสะพายปืนแก๊ปเข้าป่าไปล่าหมูป่า กระทั่งเย็นวันที่ 29 สิงหาคม ยังไม่กลับมา ชาวบ้านจึงออกตามหา
จากการสอบสวนชาวบ้านและหลักฐานในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่า ทั้งสองถือปืนแก๊ปคนละกระบอก และแยกกันล่าหมูป่า นายบุญเห็นพุ่มไม้ไหว คิดว่าเป็นหมูป่า จึงยิงเข้าไปในพุ่มไม้ แต่ปรากฏว่ายิงถูกนายเคนเสียชีวิต ด้วยความเสียใจ จึงบรรจุกระสุนแล้วใช้นิ้วโป้งเท้าเหนี่ยวไกปืนใส่หน้าตัวเองตายตามเพื่อน หรือหนีความผิด เนื่องจากตรวจสอบพบว่าถูกยิงจากปืนกระบอกเดียว ส่วนปืนอีกกระบอกยังไม่ถูกยิง. – สำนักข่าวไทย