นำร่องเลิกใช้ไม้กั้นด่านเก็บเงินอโศก 3-4

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – “ศักดิ์สยาม” ลงพื้นที่ทดลองยกไม้กั้นทางด่วนขึ้น แก้ปัญหารถติดหน้าด่านเวลาเร่งด่วน พร้อมนำร่องด่านอโศก 3 และ 4 ต้นเดือนกันยายน 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดบริเวณหน้าด่านเก็บเงิน หลังมีนโยบายเร่งด่วนขณะนี้จะให้ยกไม้กั้นทั้งในช่องชำระค่าผ่านทางแบบเงินสด และแบบอี่ซี่พาส และเอ็มพาสออก เพื่อลดระยะเวลาการจ่ายเงินและแก้ปัญหารถติดหน้าด่านในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น 


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า จากการเก็บข้อมูลพบแต่ละครั้งที่ยกไม้กั้นให้รถวิ่งผ่านจะใช้เวลายกครั้งละ 20-30 วินาที ซึ่งใน 1 นาที จะยกไม้กั้นให้รถผ่านได้แค่ 2-3 คันเท่านั้น แต่หากไม่มีไม้กั้นรถจะผ่านได้เฉลี่ย 10 คันต่อ 1 นาที 

การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบภาคสนาม มีการสาธิตการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่านอโศกมนตรี 3 โดยทดสอบยกไม้กั้นขึ้นให้รถผ่านและจับเวลาว่า ใน 1 นาทีรถสามารถผ่านได้กี่คัน ซึ่งจากการทดสอบพบว่าในช่องอีซี่พาสและเอ็มพาสมีรถผ่านด่านเฉลี่ย 15 คัน/นาที ส่วนในช่องเงินสดมีรถผ่านด่านเฉลี่ย 12 คัน/นาที 


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การทดสอบวันนี้ยังพบปัญหาการชะลอตัวหน้าด่าน เพราะประชาชนยังไม่ทราบว่าจะมีการทดสอบยกไม้กั้นหน้าด่านขึ้น หลังจากนี้จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าจะมีการทดสอบยกไม้กั้นขึ้นเวลาเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็น ก่อนจะนำร่องใช้จริงต้นเดือนกันยายนนี้ในด่านอโศก 4 ขาเข้ากรุงเทพฯ เวลา 06.00-09.00 น. และด่านอโศก 3 ขาออกกรุงเทพฯ เวลา 16.00 -19.00 น. โดยคาดว่าจะช่วยให้รถผ่านด่านใน 1 นาทีได้มากขึ้น 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า ในอนาคตภายใน 1 ปี มีแผนจะนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้ในการช่วยให้การชำระเงินค่าผ่านด่าน โดยไม่ต้องใช้ทั้งเงินสดและอีซี่พาส แต่จะเป็นรูปแบบกล้องที่จะตรวจจับเลขทะเบียน แล้วตัดเงินจากบัตรทันที เหมือนเช่นที่ต่างประเทศไทย

สำหรับปัจจุบันการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีทั้งหมด 7 สายทาง และมีปริมาณการจราจร 1.9 ล้านเที่ยวต่อวัน ในจำนวนนี้ร้อยละ 58 ชำระค่าผ่านทางด้วยเงินสด ส่วนอีกร้อยละ 42 จ่ายด้วยระบบอัตโนมัติ หรืออีซี่พาส และเอ็มพาส นอกจากนี้ กทพ.ยังเก็บข้อมูลพบว่าในช่องจ่ายเงินสด 1 นาทีสามารถผ่านด่านได้ 6-7 คันต่อช่อง ถ้าคิดเป็นรายชั่วโมงมีรถผ่านด่านได้ 350-420 คันต่อช่อง ส่วนช่องจ่ายเงินอัตโนมัติ 1 นาที รถผ่านด่านได้ประมาณ 13 -20 คันต่อช่อง ถ้าคิดเป็นรายชั่วโมงผ่านด่านได้ 800 – 1,200 คันต่อช่อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย