เตรียมตั้ง คกก.ขับเคลื่อนนโยบายการเงินการคลัง

ทำเนียบฯ 22 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเตรียมตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการเงินการคลัง ระบุเศรษฐกิจยุคใหม่ต้องประสานทั้งการเงิน การคลัง และการลงทุน  


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อดึงความร่วมมือก่อตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการเงินการคลัง หวังช่วยผลักดันนโยบายเศรษฐกิจยุคใหม่ ยอมรับว่าการทำงานยุคนี้แทบแยกส่วนไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมกันดูแลประเทศให้ขับเคลื่อนต่อไปได้ จึงต้องสอดคล้องกันทั้งนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อให้ทุกด้านประคองเศรษฐกิจไปด้วยกันทั้งด้านการเงิน การคลัง การลงทุน 

“สมัยนี้จะขับเคลื่อนแผนอะไรสักอย่างแยกส่วนไม่ได้เลย ทั้ง ก.ล.ต. คปภ. แบงก์ชาติ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จึงต้องดึงบีโอไอเข้ามาอยู่ในกรรมการชุดนี้ด้วย เพราะรัฐบาลต้องการผลักดันสิ่งใหม่อีกหลายด้าน รวมทั้งการลงทุน ทุกอย่างจึงเกี่ยวข้องกันหมด ไม่ได้หวังครอบงำองค์กรใดองค์กรหนึ่ง” นายสมคิด กล่าว 


นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า คปภ.ได้มอบหมายให้ศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพราะเป็นแหล่งทุนจำนวนมากแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีช่องทางให้นำเงินออกไปลงทุน จึงต้องการผลักดันให้เงินทุนในระบบประกันออกไปหาผลตอบแทนหรือลงทุนที่เหมาะสม เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนแผนการลงทุนขนาดใหญ่ รวมทั้งการศึกษาแนวทางดูแลผู้มีรายได้น้อย ทั้งพัฒนาระบบประกันภัยพืชผล การประกันภัยบัตรสวัสดิการฯ เพื่อดึงฐานผู้มีรายได้น้อยเข้าระบบประกันภัยด้วยเบี้ยประกันภัยต่ำสุดหรือรัฐบาลชดเชยให้บางส่วนเหมือนกับประกันภัยพืชผล 

นอกจากนี้ ยังเตรียมดึงเลขาธิการบีโอไอมาร่วมเป็นกรรมการ เพราะการให้สิทธิ์การลงทุนแต่ละพื้นที่ แต่ละสาขาต้องศึกษาพิจารณาให้เหมาะสมในแต่ละกลุ่ม แม้ว่าต้องแก้ไขกฎหมายระเบียบอีกหลายด้าน  เพราะการลงทุนมีส่วนช่วยฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงต้องพึ่งพาการเติบโตจากภายในต้องสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งต้องผลักดันผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้เป็นรูปธรรม เพราะหากการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้มีประสิทธิภาพ คาดว่าจีดีพีไตรมาส 4 จะขยับขึ้นมาได้ .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก