กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – เอกชนชี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจไม่ช่วยภาคธุรกิจก่อสร้าง แนะรัฐบาลออกแบบชุดมาตรการช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจก่อสร้าง
นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจจัดจำหน่ายและช่องทางการค้าปลีก บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เปิดเผยแนวโน้มความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ครึ่งหลังปี 2562 ว่า แม้รัฐบาลออกชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 300,000 ล้านบาท แต่อาจไม่ช่วยภาคธุรกิจก่อสร้างให้กระเตื้องขึ้นมาได้มากนัก เนื่องจากเน้นช่วยเพิ่มการบริโภคในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงอยากให้ภาครัฐพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะจัดทำชุดมาตรการ เพื่อสนับสนุนและเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคธุรกิจก่อสร้างในภาคเอกชน
สำหรับภาพรวมยอดจำหน่ายปูนซีเมนต์ครึ่งปีแรกยังเติบโตแต่ไม่มาก โดยมีแรงขับเคลื่อนจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคธุรกิจและการก่อสร้างที่อยู่อาศัยยังใช้ไม่มาก แต่โดยรวมยังมีการเติบโต ทั้งนี้ หากพิจารณาภาพรวมตลาดการก่อสร้างร้อยละ 53 เป็นตลาดภาครัฐบาล ที่เหลือร้อยละ 47 เป็นตลาดก่อสร้างภาคเอกชน ซึ่งในตลาดก่อสร้างเอกชนร้อยละ 53 เป็นธุรกิจการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในจำนวนนี้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างรายย่อยมีการลงทะเบียนถูกต้องประมาณ 90,000 รายซึ่งเป็นข้อมูลปี 2560
ส่วนมาตรการดูแลการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมานั้น ขณะนี้ส่งผลกระทบกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยอดขายโครงการที่สร้างแล้ว ไม่สามารถทำยอดขายได้หรือยอดขายลดลง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ประมาณ 8 เดือนถึง 1 ปีผลกระทบจะมาถึงตลาดธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ช่วงนี้ชะลอตัวยอดขายลดลงร้อยละ 10 ส่วนการที่ล่าสุด ธปท.ผ่อนปรนมาตรการออกมาแล้ว คาดหวังว่าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์บ้าง ด้านภาพรวมราคาวัสดุก่อสร้างปีนี้ปรับขึ้นไปแล้วตั้งแต่ต้นปีตามต้นทุนพลังงาน ดังนั้น จากนี้ไปจะต้องติดตามแนวโน้มต้นทุนพลังงานรวมถึงการแข่งขัน.-สำนักข่าวไทย