สำนักสักยันต์ “อาจารย์แจ๊ว เหนือดวง” ปิดเงียบ หลังตำรวจบุกค้น

ภูมิภาค 16 ส.ค. – สำนักสักยันต์ “อาจารย์แจ๊ว เหนือดวง” ใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ปิดเงียบ หลังตำรวจบุกเข้าตรวจค้น ภายหลังรับแจ้งมีการทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าตรวจสอบสำนักสักยันต์ “อาจารย์แจ๊ว เหนือดวง” ใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งมีการจัดทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลากหลายชนิด อาทิ กุมารทองเรียกทรัพย์ กุมารพรายเศรษฐี ตุ๊กตาเทพเรียกทรัพย์ ล็อกเก็ตเศรษฐีหน้าทอง และตะกรุดเหนือดวง โดยมีการอวดอ้างสรรพคุณว่า ผู้ที่บูชาตะกรุดนี้จะเป็นคนเหนือดวง ไม่มีวันจน สำเร็จทุกด้าน โดยมีพระเกจิที่เข้าร่วมพิธีปลุกเสก คือ หลวงตาแม็ก เจ้าอาวาสวัดป่าภูยา จ.หนองบัวลำภู และพระอาจารย์ละ เจ้าอาวาสวัดสร้อยสุวรรณ จ.กำแพงเพชร ร่วมทำพิธีด้วย ซึ่งถือเป็นการทำผิดวินัยสงฆ์ จากนั้นได้นำกำลังไปที่วัดป่าภูยา ก่อนคุมตัว “หลวงตาแม็ก” หรือ นายจำเริญ แสงดี อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าภูยา และ “พระอาจารย์ละ” หรือ นายวีระภัทร มาทำมา อายุ 41 ปี เจ้าคณะตำบลนาบ่อดิน และเจ้าอาวาสวัดสร้อยสุวรรณ ไปทำการสึก พร้อมแจ้ง 2 ข้อหา เข้าข่ายความผิดตามประกาศของมหาเถรสมาคม เรื่องห้ามภิกษุ สามเณร เรียกเงินค่าเวทมนตร์ และห้ามทดลองของขลัง พ.ศ. 2495 



หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวไปสำรวจที่สำนักอาจารย์แจ๊ว เหนือดวง พบว่า ประตูหน้าบ้านเปิด แต่มีประตูมุ้งลวดชั้นใน ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้า-ออก สอบถามคนในบ้านได้ความว่า อาจารย์ไม่อยู่ และยังไม่พร้อมจะให้ข้อมูลใดๆ โดยไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ


ที่วัดสร้อยสุวรรณ อ.เมือง จ.กําแพงเพชร ผู้สื่อข่าวไปติดตามข่าว “พระอาจารย์ละ” หรือ นายวีระภัทร มาทำมา อายุ 41 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสร้อยสุวรรณ โดยวันนี้บรรยากาศเงียบเหงา แต่ยังมีบรรดาลูกศิษย์ผู้สูงอายุมาพบพระอาจารย์ละ ภายในบริเวณวัด และร้องขอให้อาจารย์ได้อยู่ที่วัด เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสวัดเป็นพระผู้ปฏิบัติและพัฒนาวัด โดยบวชมานานถึง 22 พรรษา และยังเป็นที่เคารพนับถือของบรรดานักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจำนวนมาก ชาวบ้านจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกว่ายังคงสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสรูปนี้ต่อไป แม้จะไม่ได้เป็นพระสงฆ์ก็ยังคงให้ความศรัทธา และสามารถพัฒนาวัดต่อไปได้ 

นายวีระภัทร หรือ “พระอาจารย์ละ” มีบ้านพักอาศัยในละแวกเดียวกันกับวัด ยังคงมีลูกศิษย์เดินทางมาหา รวมทั้งโทรศัพท์มาอย่างไม่ขาดสาย กล่าวว่า ขอขอบคุณในความห่วงใยของบรรดาลูกศิษย์ และหลังลาสิกขาจากสมณเพศแล้ว ได้มีคำสั่งมิให้ดำเนินการใดๆ เผยแพร่ข้อมูลใดๆ ตามสื่อโซเชียล ก็จะขออยู่อย่างสงบ มิเรียกร้องสิทธิใด เนื่องจากเกรงชาวพุทธจะได้รับความเสียหาย ซึ่งต่อไปตนก็ยังคงตั้งใจที่จะพัฒนาวัด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็ยังคงไม่เปลี่ยนความตั้งใจ และมิได้มีจิตคิดเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น 

ส่วนบรรยากาศที่วัดป่าภูยา อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งบนยอดเขามีเจดีย์ขนาดใหญ่และศาลาปฏิบัติธรรมหลายหลัง เนื้อที่กว่า 10 ไร่ แต่ไม่พบ “หลวงตาแม็ก” หรือ นายจำเริญ แสงดี อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูยา พบแต่ น.ส.ธัญญลักษณ์ แสงดี อายุ 30 ปี บุตรสาว เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองอยู่ที่ จ.อุดรธานี พอทราบข่าวก็รีบมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวหลวงตาแม็กไปที่วัดป่าพิกุลทอง อ.สุวรรณคูหา โดยให้พระมหาไพบูลย์ รักษาการเจ้าคณะอำเภอสุวรรณคูหา ฝ่ายธรรมยุต ทำการสึก หลวงตาแม็กก็ยอมสึกโดยดี พร้อมระบุว่า เหตุการณ์วันนั้นมีลูกศิษย์นิมนต์ให้ไปฉันเพล ที่สำนักอาจารย์แจ๊ว เหนือดวง ที่กรุงเทพฯ จากนั้นจึงให้หลวงพ่อประพรมน้ำมนต์ให้กับญาติโยมที่มาร่วมปฏิบัติธรรม แต่ภาพที่ออกมากลับกลายว่าไปปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ซึ่งตรงนี้ตนเองก็ไม่เข้าใจ ขณะนี้หลวงตาแม็กไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยแจ้งว่า ขอให้ห่มขาวปฏิบัติธรรมเสียก่อน ถ้ามีอะไรสอบถามกับตนเองได้เลย ตนจะเป็นคนกลางสื่อสารกับหลวงตาแม็กให้ ในส่วนของชาวบ้านรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่านผิดอะไร ทำไมไม่มีการสอบสวนเสียก่อน พอมาถึงก็จับท่านสึกเลย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]