ตร.เอาจริง!!ปราบเด็กแว้น ตั้งรางวัลนำจับคดีละ 3000 บาท เริ่มก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.- ตำรวจเอาจริงปราบเด็กแว้น ตั้งรางวัลนำจับคดีละ 3000 บาท เริ่มกันยายนนนี้ พบสถิติรับแจ้งลดลง จับกุมเพิ่มขึ้น สถิติสูงอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและชัยภูมิ


พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามผลการปฎิบัติมาตราการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และ ความผิดที่เกี่ยวข้อง โดยวันนี้(15 ส.ค.)ที่ประชุมจะมีการหารือเรื่องการตั้งรางวัลนำจับให้แก่ประชาชนที่ให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการโทรแจ้งทางโทรศัพท์ที่สายด่วนหมายเลข 191 หรือ หมายเลข 1599 และช่องทางเพจ”ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.” โดยจะมอบเงินรางวัลตอบแทนให้ 3,000 บาท หากสามารถนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเกณฑ์ให้รางวัล คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะเริ่มดำเนินการได้ 


โดยเงินรางวัลดังกล่าวจะใช้เงินจากกองทุนสืบสวน และ จากกองทุนต่างๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากพบว่ามีการแจ้งเท็จจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท  สำหรับประชาชนที่แจ้งข้อมูลให้ตำรวจนั้น ยืนยันว่าจะรักษาความลับเป็นอย่างดีไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้แจ้งหลุดออกไปเพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา  ซึ่งในอดีตมักมีกลุ่มเด็กแว้นออกมาแข่งรถ ล่าสุดในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการร้องเรียนในเรื่องนี้ลดลง แต่ในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างเช่น นครราชสีมา และ ชัยภูมิ ยังคงมียอดการร้องเรียน และ ยอดการจับกุมจำนวนมาก ซึ่งได้สั่งการให้ทุกพื้นที่อย่าปกปิดเหตุ เพื่อหวังให้ยอดการจับกุมลดลงเพราะจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวางมาตราการแก้ไขและป้องกัน โดยจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลหากพบว่ามีการปกปิดหรือบิดเบือนสถิติในช่วงแรกจะตักเตือนก่อน หากพบซ้ำจะพิจารณาบทลงโทษต่อไป


ส่วนภาพรวมการดำเนินการในห้วงระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม-1 สิงหาคม และ ช่วงวันที่ 2-11 สิงหาคม พบว่ามีการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ผู้สนับสนุน ผู้ปกครอง และ ความผิดเกี่ยวกับท่อไอเสียไม่ได้มาตราฐาน เปลี่ยนตัวรถ และ คดีอื่นๆ โดยห้วงแรกสามารถจับกุมได้ 46,659 รายทั่วประเทศ ห้วงที่ 2 สามารถจับกุมได้ 1,2082 รายทั่วประเทศ ซึ่งจากการเข้มงวดมาตราการเห็นได้ว่ามีจำนวนผู้กระทำความผิดลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ช่วยผู้ที่ติดค้างใต้ซากตึกถล่ม

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ล่าสุดมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบอาคาร สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบ หลังตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดิน​ไหว​เพียงตึกเดียว​ คาดรู้ผลใน 7 วัน ยันไล่บี้ตั้งแต่แบบอาคารและการก่อสร้าง ชี้ทั้งบริษัทไทย-จีน​ ต้องรับผิดชอบเต็มร้อย ​ขณะทูตจีนพาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้