กบข.จับมือสถาบันรายใหญ่ไม่ลงทุนหุ้นปั่น

ก.คลัง 15 ส.ค. – กบข.ดึงนักลงทุนสถาบัน 32 ราย ประกาศเจตนารมณ์ไม่ลงทุนหุ้นปั่น ขู่ไม่เข้าลงทุน 3-6 เดือน โชว์ไทยเป็นชาติแรกของโลกยกระดับตลาดทุน 



นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นประธานลงนามและประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบของนักลงทุนสถาบันในการลงนามแนวปฏิบัติ “การระงับลงทุน” (Negative List Guideline) สอดรับตลาดทุนทั่วโลกที่ต้องการลงทุนกับหุ้นที่รับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน การเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นที่ยอมรับ เมื่อเกิดเหตุการณ์กระทำผิดภาคเอกชนโดยนักลงทุนสถาบันจะเข้าไปดูแลแก้ไขตักเตือน นับเป็นกลไกทำงานของภาคเอกชนด้วยกันเอง 


น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เป็นการยกระดับตลาดทุนไทยให้เทียบชั้นตลาดทุนโลก เพื่อยึดหลักประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบ จึงยินดีที่บรรดานักลงทุนสถาบันเกือบทุกรายเข้ามาร่วมโครงการมูลค่าทรัพย์สินลงทุนกว่า 10 ล้านล้านบาท นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาตลาดทุน บอร์ด ก.ล.ต.พร้อมส่งเสริมแนวทางดังกล่าวหลายช่องทางเพื่อคุ้มครองนักลงทุน 


นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกิตติศักดิ์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นประเทศแรกของโลกที่มีบริษัทเอกชน นักลงทุนสถาบันร่วมกันประกาศความร่วมมือไม่เข้าไปลงทุนกับบริษัทที่มีปัญหาปั่นหุ้นกระทำผิด เพราะมีกองทุนร้อยละ 99 มาร่วมลงนามครั้งนี้ เนื่องจากกระแสการรับผิดชอบ ESG กระจายไปทั่วโลก ขณะที่ธนาคารโลก WEF ยังให้การยอมรับแผนดำเนินงานของไทย นับว่าเป็นการยกระดับตลาดทุน

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ คณะกรรมการ กบข. กล่าวว่า การรวมตัวครั้งแรกอย่างเป็นรูปธรรมของนักลงทุนสถาบันชั้นนำของไทย รวม 32 ราย บริหารสินทรัพย์ กว่า 10.8 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย กบข.  สำนักงานประกันสังคม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และบริษัทประกันชีวิต  หากเกิดกรณีที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเด็นร้ายแรง หรือดำเนินงานขัดแย้งต่อหลักการ ESG และก่อให้เกิดผลกระทบทางลบอย่างร้ายแรง ทางกลุ่มนักลงทุนสถาบันจะเข้าประสานงานกับบริษัท เพื่อหาทางแก้ปัญหาหรือหาทางออกที่เหมาะสม  หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหารุนแรง  เพื่อป้องกันผลกระทบทางลบที่อาจเกิดกับผู้ถือหุ้นและสังคมในภาพรวม นักลงทุนสถาบันแต่ละรายจะไม่เข้าลงทุนเพิ่มในบริษัทที่มีปัญหาระยะสั้น 3 เดือน หรือจนกว่าจะแก้ไขปัญหาสำเร็จ เพื่อผลักดันให้บริษัทกลับมาดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืนและสอดคล้องกับหลักการ ESG   ปัจจุบัน กบข. มีสมาชิกประมาณ 1 ล้านคน มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 940,811 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2562).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง