“พระจูเลียน” ยอมรับผิด-ขอโทษคนไทย จ่อลาสิกขาพรุ่งนี้

แม่ฮ่องสอน 9 ส.ค.- คณะสงฆ์แม่ฮ่องสอน เผยกรณีข่าว “พระจูเลียน” เสพเมถุน สอบถามไปยังเจ้าตัว ยอมรับเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายปีแล้ว หลังเกิดเหตุได้ลาสิกขาจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ แต่ต่อมาได้กลับเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรใหม่อีกครั้ง ด้าน “พระจูเลียน” เตรียมลงจากดอยเข้าไปที่วัดอุปัชฌาย์วันพรุ่งนี้ เพื่อลาสิกขา ยอมรับผิด ขอโทษคนไทยและชาวพุทธทุกคนด้วย


กรณี “พระจูเลียน อาพาธโร” พระชาวแคนาดา ที่ปัจจุบันประจำอยู่บ้านปู่ทา อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์หมู่บ้านชายแดนห่างไกล แต่ล่าสุดกลับมีคนโพสต์เฟซบุ๊กว่า พระจูเลียน เคยมีสัมพันธ์กับสีกาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกับพระสุมณฑ์ ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ข้อมูลว่า คณะสงฆ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสั่งการให้พระเลขาธิการเจ้าคณะ อ.สบเมย สอบถามไปยังพระจูเลียน เบื้องต้นพระจูเลียนยอมรับภาพที่ปรากฏเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายปีแล้ว และช่วงนั้นยังไม่ได้มาอยู่ที่แม่ฮ่องสอน หลังเกิดเหตุ พระจูเลียน ลาสิกขาจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ ต่อมาได้กลับเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรใหม่ภายหลัง ก่อนเดินทางมาประจำที่ชายแดนด้าน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ย้ำการที่พระจูเลียนยอมรับผิด หากให้ลาสิกขาอีกครั้ง เจ้าตัวก็คงไม่มีปัญหาอะไร


ด้าน พระจูเลียน ยอมรับผิดเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดศีล ขณะนี้ยังอยู่บนดอย และเตรียมจะลงจากดอยเข้าไปที่วัดอุปัชฌาย์วันพรุ่งนี้ เพื่อลาสิกขา โดยยอมรับและกล่าวขอโทษคนไทยและชาวพุทธทุกคนด้วย

สำหรับ พระจูเลียน ชื่อเดิมว่า “จูเลียน ดีซิเลต” เป็นชาวแคนาดา ได้รับฉายา “นักบุญแห่งขุนเขา” ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งก่อนหน้ามาบวชเป็นพระอยู่ที่ไทย พระจูเลียนค้นพบว่า การทำงานหนัก หาเงินได้มาก ไม่ได้ทำให้มีความสุข กลับมีแต่ความเครียด จึงสละทุกอย่าง แล้วเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

พระจูเลียน มาไทยครั้งแรก ตอนอายุ 18 ปี ในโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ระหว่างที่อยู่ในโปรแกรมของนักเรียนแลกเปลี่ยน ก็ได้ไปนั่งสมาธิตอนเย็นทุกๆ วัน ที่วัดใกล้ๆ หมู่บ้านที่อยู่ใน จ.สระบุรี จากนั้นก็กลับไปแคนาดา และมาเมืองไทยอีกครั้งปี 2541 อยู่กับเพื่อนที่ภาคใต้ ก่อนจะไปถือศีล 8 ตามสถานที่ต่างๆ อยู่นานประมาณ 1 ปี

ตอนนั้นพระอาจารย์ของพระจูเลียน ซึ่งเป็นพระฝรั่งจากอังกฤษ แนะนำให้บวช แต่ตอนนั้นยังไม่คิดจะบวช ชอบนั่งสมาธิอย่างเดียว แต่หลังจากนั้นปีกว่า ก็พบว่าความสุขของเราอยู่ที่การนั่งสมาธิ สุขอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ภายนอก จึงตกลงบวชเป็นพระ

หลังจากบวชแล้ว พระจูเลียน มาอยู่ที่สบเมย  เหตุผลที่มาอยู่ที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงปู่ทา อ.สบเมย เพราะว่าชอบสันโดษ ชอบความสงบ เท่ากับว่า พระจูเลียน ปฏิบัติธรรมมากว่า 17 ปี และฝึกสมาธิมากว่า 20 ปี.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก