ภูมิภาค 9 ส.ค. – ครอบครัวผู้เสียหายคดีแพรวา 9 ศพ เผยดีใจที่คดีจบสิ้น และได้รับเงินชดเชยเยียวยาแล้ว หลังยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน
ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่พูดคุยกับนางทองพูน พานทอง แม่ของนางนฤมล ปิตาทานัง พนักงานขับรถตู้ ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร หนึ่งในผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถเก๋งพุ่งชนรถตู้จนเสียหลักหมุนชนขอบกั้นทางบนดอนเมืองโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน เหตุเกิดเมื่อปี 2553 และครอบครัวผู้สูญเสียบางส่วนได้รับเงินชดเชยไปแล้ว
นางทองพูน บอกว่า รู้สึกดีใจที่คดีจบสิ้น หลังยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน รวมถึงสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว ล่าสุดตนได้รับการโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีธนาคารแล้ว รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท แต่เงินจำนวนนี้ยังเทียบไม่ได้กับชีวิตและครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งสมาชิกภายในครอบครัวจากไปอย่างไม่มีวันกลับ หากเลือกได้ตนอยากขอชีวิตของลูกสาวกลับมา ไม่ได้อยากได้เงิน เพราะทุกวันนี้ตนทำงาน ทำขนมขาย มีรายได้พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่อยากแตะต้องเงินก้อนนี้ด้วยซ้ำ เพราะมันเหมือนเป็นชีวิตของลูกสาว ยิ่งใกล้วันแม่ก็ยิ่งคิดถึงลูกที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังคดีจบสิ้นก็ได้บอกดวงวิญญาณของลูกสาวว่า เรื่องราวจบสิ้นแล้ว ขอให้ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี และเตรียมนำเงินเยียวยาบางส่วนที่ได้รับไปทำบุญให้กับลูกสาว
นอกจากนี้ ครอบครัวผู้สูญเสียจะเดินทางไปขอบคุณทีมทนายความของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ช่วยว่าความให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แม้ว่าทางครอบครัวผู้สูญเสียยินดีจะมอบให้เพื่อตอบแทนก็ตาม โดยจะเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลางสัปดาห์หน้า
ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ยังลงพื้นที่พูดคุยกับนางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 71 ปี แม่ของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ ดร.เป็ด พบว่า นางถวิลยังคงนั่งร้อยพวงมาลัยดอกไม้ขายตามกิจวัตรประจำวัน ภายในซอยแคบๆ ที่ตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี โดยนางถวิล เปิดเผยว่า ดีใจที่ได้รับเงินเยียวยาแล้ว หลังจากที่รอคอยมาเกือบ 9 ปี คดีจบก็ดีใจ แม้จะไม่ได้ลูกคืนมา ซึ่งในส่วนของตนนั้นจะได้รับเงินในวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562 เนื่องจากตนใช้บัญชีธนาคารกรุงเทพ ซึ่งทางทนายความของธรรมศาสตร์ แจ้งว่า ให้นำสมุดบัญชีไปปรับวันพุธนี้ ส่วนคนที่ได้รับวันนี้ยื่นบัญชีธนาคารกรุงไทย จะได้รับก่อน ซึ่งหลังจากได้รับเงินก็จะนำไปใช้หนี้บางส่วนและเก็บไว้รักษาตัว และยังคงใช้ชีวิตปกติ คือ มานั่งร้อยพวงมาลัยขาย แต่ถ้าเหนื่อยก็อาจจะกลับบ้านไปพักเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ตั้งแต่เป็นข่าวก็มีลูกค้ามาซื้อพวงมาลัยเพิ่มขึ้น บางคนแค่อยากมาดู ก็เลยซื้อพวงมาลัยด้วย บางคนก็แวะเวียนมาให้กำลังใจ ทำให้ดอกไม้และพวงมาลัยที่ร้านขายดีกว่าปกติ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าว จนทำให้ได้รับเงินเยียวยาเร็วขึ้น ส่วนเรื่องที่จะไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อไปขอบคุณทีมทนายและมอบเงินให้กับทางสมาคมของธรรมศาสตร์นั้น คงต้องรอไปก่อน เพราะทางทนายเดินทางไปต่างประเทศ ต้องรอให้กลับมาก่อน จึงจะนัดกับกลุ่มผู้เสียหายอีกครั้ง
ส่วนครอบครัวนายอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี ผู้ช่วยนักวิจัยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทศโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่บ้านเลขที่ 28/1 ซอยชายทะเลบางพระ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ยังเก็บตัวเงียบ ไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว บอกเพียงสั้นๆ แต่เพียงว่า เรื่องทุกอย่างจบแล้ว ไม่อยากให้สื่อสัมภาษณ์อีก เพราะถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว. – สำนักข่าวไทย