กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – วพม.2 – กระทรวงพลังงาน เปิดพื้นที่อาคารเอ็นโก้ให้ชาวสวน จ.ชุมพร นำมังคุดมาจำหน่ายข้าราชการ – ผู้บริหารอุดหนุนคึกคัก ในขณะที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ช่วยระบายผลผลิต แก้ปัญหาราคาตกต่ำขณะนี้ที่เหลือแค่กิโลละ 6 บาท
วันนี้ (ส.ค.) ที่กระทรวงพลังงาน เครือข่ายหลักสูตรวิทยาการพลังงานสำหรับนักบริหารรุ่นใหม่ (วพม.) รุ่นที่ 2 แห่งสถาบันวิทยาการพลังงาน ร่วมกับกระทรวงพลังงาน เปิดกิจกรรมการจำหน่ายมังคุดสดๆ จากชาวสวน อ.หลังสวน จังหวัดชุมพร “อร่อยด้วย ได้ช่วยชาวสวน” 2 โดยใช้พื้นที่ชั้น 1 อาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซึ่งชาวสวนได้นำมังคุดมาจำหน่ายรวมกว่า 15 ตัน ส่วนหนึ่งได้แบ่งไปจำหน่ายที่โรงพยาบาลราชวิถี ในขณะที่ผู้ร่วมงานได้มีการบริจาคมังคุด ส่วนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 2,610 กก.ส่งต่อไปยัง “บ้านนกขมิ้น-บ้านปราณี-บ้านเฟื่องฟ้า-บ้านบางแค-บ้านนทภูมิ” ปรากฎว่าได้รับความสนใจ ซื้อกันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและชื่นชอบคุณภาพมังคุดที่นำมาจำหน่าย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว ว่า การเปิดพื้นที่รับซื้อผลผลิตมังคุดครั้งนี้ ทำให้ชาวสวนสามารถขายตรงถึงมือผู้บริโภค ช่วยบรรเทาปัญหามังคุดราคาตกต่ำในขณะนี้ ซึ่งเหลือเพียงกิโลกรัมละ 6 – 7 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและไม่คุ้มค่ากับต้นทุนการผลิตของเกษตรกร
นอกจากนั้น นายสนธิรัตน์ ยังขอให้เครือข่ายสถานีบริการน้ำมันปตท. ทั่วประเทศ ได้มีส่วนร่วมในการจัดหาจุดจำหน่ายมังคุดจากชาวสวนด้วย เพื่อเป็นตลาดในการระบายผลผลิตเพิ่มมากขึ้นทั้งภาคใต้ ภาคเหนือและภาคอีสาน ก็จะช่วยทำให้มังคุดคุณภาพดีที่กำลังออกสู่ตลาดตอนนี้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ช่วยดึงราคามังคุดให้สูงขึ้นได้ต่อไป
นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า โออาร์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาให้แก่เกษตรกรไทย โดยขณะนี้เริ่มจัดพื้นที่จำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น จังหวัดชุมพรให้แก่ชาวสวนได้ขายผลผลิตแล้ว และได้นำมาเป็นของสมนาคุณให้กับลูกค้าที่เข้ามาเติมน้ำมันด้วย สอดคล้องกับแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งที่ผ่านมายังมีโครงการ “ไทยเด็ด” เป็นตลาดที่ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ชุมชนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน อีกด้วย
นายธีระพล ติรวศิน ประธาน วพม.2 กล่าวเสริมว่า โครงการจัดจำหน่ายมังคุคครั้งนี้ ได้รับซื้อจากหน้าสวนราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาจริงตกต่ำเหลือแค่ 5 – 6 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น โดยตัวแทนกลุ่มวพม.2 ต้องขอขอบคุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่สั่งซื้อมังคุคด้วยเงินส่วนตัวจำนวน 1,000 กิโลกรัมและอาคารเอ็นโก้ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ ตลอดจนกลุ่มเครือข่ายวพม.ที่ช่วยกันสนับสนุนและบางส่วนได้นำไปช่วยบริจาคต่อไปยังกลุ่มผู้ด้อยโอกาสอีกด้วย เมื่อทุกคนช่วยกันก็ทำให้การกระจายมังคุดครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้กินมังคุดที่อร่อยในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งการร่วมซื้อเช่นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคามังคุดของชาวสวนเริ่มกระเตื้องขึ้น . – สำนักข่าวไทย