กรุงเทพฯ 8 ส.ค.- ผบ.ตร.นำ 8 นักสืบทีมคลี่คลายคดีระเบิดป่วนกรุง เตรียมแถลงสรุปขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนไปถึงหลังก่อเหตุ โดยสรุปแผนประทุษกรรมแบ่งเป็น 2 กลุ่ม รวม 15 จุด
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช้านี้ (8 ส.ค.) มีกองทัพสื่อมวลชนจากทุกสำนักเฝ้ารอการแถลงความคืบหน้าเหตุระเบิดป่วนกรุง ช่วงวันที่ 1-2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจะเริ่มแถลงในเวลา 13.00 น. ซึ่งตำรวจสันติบาลยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปบนห้องแถลง ภายในอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เบื้องต้นสำนักข่าวไทย ตรวจสอบไปยังโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทราบว่า ในวันนี้จะมีผู้ร่วมแถลงทั้งสิ้น 8 คน นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน, พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เจ้าของพื้นที่ รวมถึง พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง นำทีมแถลง โดยจะแถลงลำดับขั้นตอนตั้งแต่ก่อนและหลังเกิดเหตุ เส้นทางการหลบหนี และแนวทางการติดตามจับกุม
ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจคุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดได้แล้ว 7 คน ประกอบด้วย 2 คนแรก ที่ก่อเหตุหน้าสำนักงานตำรวจแห่งขาติ คือ นายลูไอ และนายวิลดัน ซึ่งมีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ ขณะนำระเบิดมาวางที่ป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จุดสำคัญที่ตำรวจแกะรอยตามจับได้ คือ วงจรปิดขณะเรียกแท็กซี่ แม้ว่าทั้ง 2 คนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตาม จากนั้นจึงตามไปพบว่าเดินทางไปขึ้นรถทัวร์ที่สายใต้ใหม่ เพื่อหลบหนีลง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนถูกคุมตัวได้ที่แยกปฐมพร จ.ชุมพร
ส่วนอีก 5 คน ประกอบด้วย นายมูฮัมหมัด ฮาซัน มะ, นายมูฮัมมัด อิลฮัม สะอิ, นายอิสมะแอ, นายอิลมี และนายซูลกิฟลี ในจำนวนนี้บางคนมีภูมิลำเนาที่ จ.นราธิวาส และถูกคุมตัวได้ระหว่างเตรียมข้ามแดนที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เบื้องต้นตำรวจคุมตัวนายมูฮัมหมัดฮาซัน มะ และนายมูฮัมมัดอิลฮัม สะอิ ไว้ร่วมกับอีก 2 คน ที่ก่อเหตุหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ถูกกันตัวไว้เป็นพยาน
สำหรับเหตุลอบวางระเบิดป่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล แยกเป็น 2 กลุ่ม ตามลักษณะวัตถุระเบิดที่ใช้
กลุ่มแรก ระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ภาชนะต่างๆ ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม มี 9 ลูก แยกเป็นที่ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ลูก,อาคาร B ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ 2 ลูก, หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย 2 ลูก, หน้าตึกมหานคร ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ และที่บริเวณใต้สะพานลอยทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี จุดละ 1 ลูก, ที่ป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ.ศรีสมาน ท้องที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 1 ลูก
ส่วนกลุ่มที่ 2 ระเบิดเพลิงที่ประกอบกับเพาเวอร์แบงก์ หรือแบตเตอรี่สำรอง ทำให้เกิดเพลิงไหม้ 6 จุด ได้แก่ แผงค้าย่านประตูน้ำ 3 จุด ห้างแพลตินัม ประตูน้ำ 1 จุด ห้างสยามพารากอน 1 จุด และร้านจำหน่ายตุ๊กตา ห้างสยามสแควร์วัน 1 จุด และล่าสุดยังพบระเบิดเพาเวอร์แบงก์แบบเดียวกัน แต่ไม่ระเบิด ในร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ย่านประตูน้ำ อีก 1 จุด รวมเป็น 7 จุด.-สำนักข่าวไทย