เพชรบูรณ์ 6 ส.ค.-แพทย์ ยืนยันนักเรียนสาวเสียชีวิตจากโรคพุ่มพวงกำเริบรุนแรง มีการติดเชื้อร่วมด้วย ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลวและอักเสบเฉียบพลัน ไม่ได้เกิดจากหมัดแมวตามที่มีกระแสข่าว
จากกรณีที่มีข่าวว่า นักเรียนสาวรายหนึ่งที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้เสียชีวิตลง โดยเบื้องต้นคาดว่า สาเหตุอาจเกิดจากถูกหมัดแมวกัด จนเกิดอาการแพ้ ก่อนจะติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรงจนเสียชีวิตในที่สุด ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ ยังบ้านพักในพื้นที่หมู่ 10 บ้านนาไร่เดียว ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พบว่าบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านข้างเคียง กำลังช่วยกันจัดงานศพของน้องมิว หรือ นางสาวสุนิสา ธรรมโม อายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/3 โรงเรียนนิยมศิลป์อนุสรณ์ ซึ่งได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 สิงหาคม 2562 ก่อนนำศพกลับมาถึงที่บ้านในช่วงบ่ายของวันที่ 5 สิงหาคม โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน รวมถึงเพื่อนนักเรียนชั้น ม.5/3 และเพื่อนสนิท ต่างพากันทยอยเดินทางมาจุดธูปไหว้ศพอย่างต่อเนื่อง
จากการสอบถามทางญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่า ที่บ้านหลังดังกล่าว ได้เลี้ยงแมว เพศผู้ สีขาว ไว้ 1 ตัว ชื่อว่าเจ้านำโชค และยังมีแมวจรจัดอีก 3-4 ตัว ได้มาอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งที่ผ่านมา น้องมิว มีอาการคัน มีตุ่มขึ้นตามตัว แขน ขา คาดว่าถูกตัวหมัดจากแมวกัดตามร่างกาย จนเกิดอาการแพ้ จึงได้ไปหาหมอที่คลินิก รักษาตามอาการ ทั้งยากินและยาทา แต่ก็ไม่หายขาดสักที เนื่องจากยังคงถูกหมัดจากแมวกัดอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายทางบ้านจึงตัดสินใจนำแมวไปไว้ที่อื่นเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหมัดจากแมวกัดอีก กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา น้องมิว มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนแรง ตัวร้อน และมีตุ่มขึ้นตามลำตัว จึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ และหมอได้นัดให้ไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งให้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่อาการยังไม่ดีขึ้น วันที่ 4 สิงหาคม จึงได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ก่อนน้องมิวจะอาการทรุดหนัก และเสียชีวิตลงในที่สุด โดยแพทย์ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ติดเชื้อในกระแสเลือดขั้นรุนแรง ส่วนใบมรณะบัตรระบุว่า เสียชีวิตเพราะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อจากห้องแล็บอีกครั้ง เนื่องจากผู้เสียชีวิตเคยมีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ โรคพุ่มพวง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาราว 2-3 สัปดาห์ถึงรู้ผล
ด้านนายอุทิศ คำวิโส ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าที่ผ่านมาก็พอทราบว่าผู้ตาย มักถูกหมัดแมวกัด จนเกิดอาการแพ้ และมีตุ่มคันขึ้นตามร่างกาย เป็นตุ่มสีดำ พอกินยา ทายา ก็บรรเทาอาการได้เบื้องต้น ก่อนจะมาทรุดหนักและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งสาเหตุการตาย ก็คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดให้แน่ชัดเสียก่อน
ส่วนเพื่อนนักเรียนหญิงรายหนึ่ง เล่าว่า ก่อนน้องมิว จะล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล ยังไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ก็มักจะบอกกับตนเองบ่อยๆ ว่า ชอบรู้สึกปวดเมื่อยตามฝ่ามือ พร้อมวานให้ตนเอง ช่วยนวดให้ประจำ กระทั่งต่อมาได้ทราบว่าเพื่อนไม่สบาย ไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่เพื่อนๆ เป็นอย่างมาก จึงพากันเดินทางมาจุดธูปไหว้ศพ เพื่อไว้อาลัยต่อเพื่อนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ด้านนายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้เสียชีวิตคือนางสาวสุนิสา ธรรมโม มีโรคประจำตัวแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจ คือ โรคพุ่มพวง ซึ่งน้องได้เกิดอาการกำเริบในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อ จึงทำให้อาการกำเริบรุนแรงขึ้นจนทำให้อวัยวะภายในล้มเหลว ไม่ได้เกิดจากตามที่มีกระแสข่าวว่า เกิดจากหมัดแมวแต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตได้เคยมีประวัติถูกแมวข่วนจึงเกรงว่าจะเป็นโรคกลัวน้ำ จึงได้มาฉีดวัคซีนจนครบเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันตัวโรคนี้ไม่มีและไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตในครั้งนี้เช่นเดียวกัน
จึงสรุปได้ว่าการเสียชีวิตของน้องสุนิสา ในครั้งนี้ เกิดจากแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) หรือโรคพุ่มพวง กำเริบอย่างรุนแรง มีการติดเชื้อร่วมด้วย ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลวและอักเสบเฉียบพลัน สำหรับโรคไข้เลือดออกนั้น แพทย์จากโรงพยาบาลได้ทำการตรวจหาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารักษา คือ วันที่ 31 ก.ค. 2562 ซึ่งก็ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า หมัดแมวและหมัดหมานั้น ในทางการแพทย์ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากสองชนิดนี้ จะมีก็แค่แพ้เป็นผื่นคันลักษณะเดียวกับถูกยุงกัด ซึ่งบางคนก็แพ้เป็นผื่นคัน แต่บางคนก็อาจจะไม่เป็นอะไร ที่ผ่านมาจะมีเพียงแต่หมัดหนูที่เป็นพาหะของโรคไข้กาฬโรค ในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบันไม่มีแล้ว.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• รอผลแล็บ กรณีหมัดแมวกัดเด็ก ม.5 ติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิต
• สัตวแพทย์ไม่เคยพบตาย ติดเชื้อในกระแสเลือดจากหมัดแมวกัด
