กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ย่านประตูน้ำอีกครั้ง หลังยังคงมีความคลุมเครือว่าเหตุไฟไหม้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดอย่างไร
“สันติวิธี พรหมบุตร” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ย่านการค้าประตูน้ำอีกครั้ง หลังจากยังคงมีความคลุมเครือว่า เหตุไฟไหม้ที่ประตูน้ำ เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดอย่างไร เพราะตั้งแต่วันแรกที่ลงไปในพื้นที่ เจ้าของร้านค้าบางรายบอกว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บเศษซากชิ้นส่วนวัสดุบางอย่าง ซึ่งถูกเผาไหม้ในกองเพลิง กลับไปตรวจสอบด้วย และบอกว่าไม่ใช่อุบัติเหตุหรือไฟฟ้าลัดวงจร แต่เป็นการวางระเบิดเพื่อเผาย่านการค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่ชาวต่างชาติรู้จัก
“วิชัย ชัชวาลย์” เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า ซึ่งตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการก่อเหตุ แต่โชคดีที่สปริงเกอร์ทำงานฉีดน้ำดับไฟได้ทันก่อนจะถูกเพลิงไหม้วอดวาย เหมือนอีก 2 จุด บอกว่า จากวันเกิดเหตุจนถึงเมื่อวาน มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่ร้านแล้วประมาณ 10 กว่าครั้ง และเก็บเศษซากชิ้นส่วนบางอย่างที่ไหม้เกรียมกลับไปด้วย แต่ไม่ได้บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืออะไร และคนร้ายวางเพลิงด้วยรูปแบบไหม
ส่วนในตรอกอำนวยสุข ตลาดเฉลิมลาภ ย่านประตูน้ำที่อยู่ติดถนนราชปรารภ เป็นจุดที่คนร้ายนำ Power Bank มาดัดแปลงกลไกให้เกิดไฟไหม้ ถือเป็นจุดสำคัญที่ยังมีหลักฐานสมบูรณ์ เพราะว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของย่านการค้าประตูน้ำ ฉีดสารเคมีดับไฟได้ทัน ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้กองไม้เก่า และทำลายพยานหลักฐานเสียหาย “เกียรติ สายเล็ก” เป็นแม่ค้าที่ตั้งร้านขายของอยู่ตรงปากทางเข้าออกตรอก บอกว่า ได้ไปให้ปากคำกับตำรวจแล้ว ตอนนี้ ผู้ค้าหลายรายในตลาด เชื่อว่าทั้ง 4 จุด ถูกวางเพลิงในลักษณะเดียวกัน คือ ใช้ Power Bank
สำหรับความคืบหน้า เหตุการณ์เพลิงไหม้ย่านประตูน้ำ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวความมั่นคง ว่า เป็นการวางระเบิดเพลิง ส่วนจะเป็นระเบิดเพลิงแบบใดนั้น ต้องรอหน่วยที่เกี่ยวข้องเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าไปเก็บหลักฐานในจุดดังกล่าวแล้ว แต่ผลการตรวจสอบจุดไฟไหม้ ยังไม่เจอสารระเบิด
แต่หน่วยงานแรกที่เข้าไปเก็บหลักฐานตั้งแต่เช้าวันเกิดเหตุ คือ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง โดยวันนี้ มีการประชุมวิเคราะห์พยานหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุว่า คนร้ายใช้ระเบิดเพลิงแบบใด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าทั้ง 4 จุดเกิดเหตุย่านประตูน้ำ คนร้ายใช้ Power Bank มาดัดแปลงกลไกให้เป็นระเบิดเพลิง ซึ่งข้อมูลจากการสอบสวนผู้ต้องสงสัย 2 คน ที่ถูกควบคุมตัวได้หลังเกิดเหตุ มีการระบุว่า ที่ประตูน้ำใช้ระเบิดเพลิง ส่วนการวางระเบิดในจุดอื่นๆ โดยเฉพาะที่เก็บกู้ได้ 2 จุดคือหน้าอาคารศูนย์ราชการ และที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าคนร้ายใช้วัตถุระเบิดแรงสูง พีอีทีเอ็น ซึ่งเป็นเนื้อระเบิดสำเร็จรูป มาประกอบแสวงเครื่องกับบอลแบริ่ง หรือลูกปืน เป็นสะเก็ดระเบิด และหน่วงเวลาจุดชนวนด้วยไอซีไทม์เมอร์
ด้านการสอบสวนผู้ต้องสงสัย 2 คน จนถึงขณะนี้ เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น เปิดเผยเพียงว่า เชื่อมโยงถึงกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังไม่มีการระบุถึงเหตุผลในการเข้ามาก่อเหตุถึงกรุงเทพฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มก่อความไม่สงบต้องการแสดงให้นานาชาติเห็นในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เพราะเลือกสถานที่วางระเบิด เป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานความมั่นคง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 47 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่กลุ่มก่อความไม่สงบประกอบระเบิดแสวงเครื่อง โดยใช้ระเบิดส่วนผสมของแอมโมเนียไนเตรทกับน้ำมันโซลา เรียกว่าแอนโฟ ใช้เหล็กเส้นและตะปู มาตัดทำเป็นสะเก็ดระเบิด จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือไม่ก็นาฬิกาดิจิตอล ซึ่งต่างจากระเบิดป่วนกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ที่ใช้วัตถุระเบิดแรงสูง พีอีทีเอ็น ซึ่งเป็นเนื้อระเบิดสำเร็จรูป มาประกอบแสวงเครื่องกับบอลแบริ่ง หรือลูกปืน เป็นสะเก็ดระเบิด และหน่วงเวลาจุดชนวนด้วยไอซีไทม์เมอร์ ซึ่งถ้าหากเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบจริง ก็อาจมองได้ว่า เป็นการพัฒนาการประกอบระเบิดไปอีกขั้นหนึ่งของพวกเขา.-สำนักข่าวไทย