กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีแจงนโยบายค่าแรง พลังงาน ยันภัยแล้ง ย้ำเพื่อนบ้านรักไทย แต่ไม่ชอบการประท้วง เสถียรภาพ-ความสงบ สำคัญต่อการลงทุน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงยืนยันรัฐบาลได้วางแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น คณะกรรมการไตรภาคีจะเป็นผู้พิจารณา แต่รัฐบาลพร้อมที่จะรับไปดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะการปรับค่าแรงจะกระทบผู้ประกอบการและราคาสินค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาจะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลควรมีการปรับยุทธศาสตร์เรื่องการลงทุน เนื่องจากขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามมีการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น
“ขอย้ำว่าต่างประเทศรักและชอบประเทศไทย แต่ไม่ชอบการประท้วง ซึ่งเสถียรภาพทางการเมืองและความสงบเรียบร้อย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนและการท่องเที่ยว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การสร้างโรงแรมพื้นที่บนเขา ไทยไม่สามารถให้สิทธิประโยชน์เหล่านั้นได้ทั้งหมด ขณะที่ไทยยังมีปัญหาเวลาจะมีการลงทุนใหม่ ๆ โดยเกิดจากความไม่เข้าใจของประชาชน ดังนั้น ทุกอย่างต้องมองภาพรวมก่อนว่าอะไรจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม รัฐบาลต้องเตรียมการปฏิรูปทั้งระบบให้ทันการเปลี่ยนแปลง และทุกคนต้องให้ความร่วมมือ เพราะถ้าไม่ร่วมมือก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้งนี้ ไทยต้องสร้างการลงทุนและโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้ไทยมีความเจริญเติบโตสูงขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า มาตรการสำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะการผลักดันในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ชี มูล เข้าสู่ภาคเกษตรทุกหมู่บ้าน แต่ปัญหาที่พบ คือ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ แต่รัฐบาลยังคงต้องเดินหน้าศึกษาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไปเช่นเดียวกับปัญหาของเกษตรกรที่วันนี้เกษตรกรทำนา แต่ไม่ได้เงิน เพราะมีแต่หนี้ที่ไปกู้ยืมมา ซึ่งรัฐบาลต้องเข้าไปดูแลเรื่องนี้ ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อลดปัญหาหนี้สินของเกษตรกร รวมถึงพิจารณาถึงปริมาณการผลิต และความต้องการของตลาด ให้มีความสมดุลกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนที่สมาชิกอยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนงานการทูตเชิงรุก โดยเน้นกลุ่มประเทศตะวันกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอยากให้รัฐบาลเชิญชวนเข้ามาลงทุนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการขยายสนามบินที่นราธิวาสก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีความสนิทสนมกับผู้นำหลายประเทศด้วยกัน และซาอุดิอาระเบียก็ได้เชิญตนเดินทางไปเยือน รวมถึงเยือนกลุ่มประเทศอาหรับด้วย เชื่อว่าจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้น รวมถึงเรื่องแรงงานด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง แนวทางการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งมีข้อเรียกร้องจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่าการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากพบว่ามีความผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเอามาพูดกันก่อน เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่วนการปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงาน รัฐบาลมีแผนปฏิรูปพลังงานที่ใช้ในการควบคุมอยู่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งในด้านน้ำมัน ก็ส่งเสริมการใช้บี 20 มากขึ้น และจะส่งเสริมให้นำไบโอดีเซลไปใช้ในระบบขนส่งมวลชน ส่วนการส่งเสริมการใช้ยางพารา ทางรัฐบาลได้ติดต่อกับกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งมีความสนใจที่จะลงทุนนำยางพาราไปทดสอบการทำถนน.-สำนักข่าวไทย
