นายกฯ ยืนยัน รัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

หอประชุม ทีโอที 26 ก.ค.- การแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาวันที่ 2 นายกฯ ยืนยัน รัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ภัยแล้งอย่างเป็นระบบ รวมถึง ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น  ไม่ยกเว้นหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 


 การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล วันนี้ (26 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เปิดให้ตัวแทนทั้ง 3 ฝ่ายหารือเรื่องเวลาในการอภิปราย เนื่องจากเวลาเหลือ 16 ชั่วโมงกว่า ซึ่งจะทำให้เกินเที่ยงคืนของวันนี้ไปหลายชั่วโมง 

ประธานอนุญาต “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เข้าประชุมต่อได้


ระหว่างนั้น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ใช้สิทธิ์หารือ ขอให้ที่ประชุมปฏิบัติตามข้อบังคับโดยระบุว่า “เนื่องจากวานนี้ (25 ก.ค.) ประธานในที่ประชุมได้เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ออกจากห้องประชุม แล้วเหตุใด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงเสนอหน้าเข้ามานั่งอยู่ในห้องประชุมได้ ท่านประธานเชิญกลับมาหรือเปล่า”  ทำให้เกิดการประท้วงกันวุ่นวาย โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประท้วงขอให้ น.ส.ปวีณา ถอนคำพูด เพราะทำผิดข้อบังคับการประชุมพูดเสียดสีคนอื่น 

อย่างไรก็ตาม นายพรเพชรได้ห้ามปามสมาชิก และวินิจฉัยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกเชิญออกจากห้องประชุมโดยไม่มีกำหนดเวลา แต่วันนี้เวลาได้ผ่านมาแล้ว จึงกลับเข้าร่วมประชุมได้ตามปกติ 

สมาชิกขอให้ทบทวนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ


จากนั้น สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายเน้นถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เห็นว่า แม้มีการวางไว้ครอบคลุมแล้ว แต่รัฐบาลจะต้องวางกรอบแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจให้ชัดเจน เพื่อรองรับกับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึง ขอให้ทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างรอบคอบ เพราะที่ผ่านมาเมื่อปรับขึ้นราคาสินค้าก็จะปรับสูงขึ้นตามมาด้วย  ไม่สามารถช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง

นายกฯ ยืนยันทำอย่างเป็นระบบ                        

นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจง ยืนยันรัฐบาลได้วางแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น คณะกรรมการไตรภาคีจะเป็นผู้พิจารณาแต่รัฐบาลพร้อมที่จะรับไปดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะการปรับค่าแรงจะกระทบผู้ประกอบการและราคาสินค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ปัญหา จะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน

ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรมีการปรับยุทธศาสตร์ในเรื่องของการลงทุน เนื่องจากขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม มีการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น  นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต่างประเทศรัก และชอบประเทศไทย แต่ไม่ชอบการประท้วง ซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความสงบเรียบร้อย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนและการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การสร้างโรงแรมพื้นที่บนเขา ไทยไม่สามารถให้สิทธิประโยชน์เหล่านั้นได้ทั้งหมด ขณะที่ไทยเองยังมีปัญหาเวลาจะมีการลงทุนใหม่ๆ โดยเกิดจากความไม่เข้าใจของประชาชน ดังนั้นทุกอย่างต้องมองในภาพรวมก่อน ว่าอะไรจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเตรียมการปฎิรูปทั้งระบบให้ทันการเปลี่ยนแปลง  และทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือ เพราะถ้าไม่ร่วมมือก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้งนี้ไทยก็ต้องสร้างการลงทุนและโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ไทยมีความเจริญเติบโตสูงขึ้น

นายกฯ แจงแก้ปัญหาภัยแล้ง-เกษตร-ทุจริต

นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาได้สอบถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเกษตกร และการตรวจสอบการทุจริตในกรณีต่างๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการสำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะการผลักดันในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ชี มูล เข้าสู่ภาคเกษตรในทุกหมู่บ้าน แต่ปัญหาที่พบคือ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ แต่รัฐบาลก็ยังคงต้องเดินหน้าศึกษาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป เช่นเดียวกับปัญหาของเกษตรกร ที่ส่วนตัวมองว่า วันนี้เกษตรกรทำนา แต่ไม่ได้เงิน เพราะมีแต่หนี้ ที่ไปกู้ยืมมา ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้าไปดูแลในเรื่องนี้ ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อลดปัญหาหนี้สินของเกษตรกร รวมถึง พิจารณาถึงปริมาณการผลิต และความต้องการของตลาด ให้มีความสมดุลกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง แนวทางการป้องกันทุจริตคอรัปชั่นในหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งมีข้อเรียกร้องจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่า การดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากพบว่ามีความผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเอามาพูดกันก่อน เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวาย

แนะขับเคลื่อนงานการทูตเชิงรุก

นอกจากนี้ สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลอภิปรายว่า ต้องการให้รัฐบาลขับเคลื่อนงานการทูตเชิงรุก โดยเน้นกลุ่มประเทศตะวันกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอยากให้รัฐบาลเชิญชวนเข้ามาลงทุนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการขยายสนามบินที่นราธิวาส 

นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล เพราะตนมีความสนิทสนมกับผู้นำหลายประเทศด้วยกัน  และซาอุดิอาระเบีย ก็ได้เชิญตนเดินทางไปเยือน รวมถึงเยือนกลุ่มประเทศอาหรับด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้น รวมถึงเรื่องแรงงานด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงาน ว่า รัฐบาลมีแผนปฎิรูปพลังงานที่ใช้ในการควบคุมอยู่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญการใช้พลังงานทดแทน  ซึ่งในด้านน้ำมัน ก็ส่งเสริมการใช้ บี 20 มากขึ้น และจะส่งเสริมให้นำไบโอดีเซลไปใช้ในระบบขนส่งมวลชน ส่วนการส่งเสริมการใช้ยางพารา ทางรับาลได้ติดต่อกับกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งมีความสนใจที่จะลงทุนนำยางพาราไปทดสอบการทำถนน

รมว.เกษตรฯ แจงปัญหาภัยแล้ง

จากนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงนโยบายรัฐบาล หลังจากสมาชิกอภิปรายเรื่องปัญหาภัยแล้ง ว่า  ได้รับฟังทุกความเห็น เพื่อนำไปเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการแก้ไข ต้องยอมรับว่า ช่วง 2-3เดือนที่ผ่านมา ฝนทิ้งช่วง แต่ก็โชคดีที่มีมรสุมพัดผ่านเข้ามา ทำให้ฝนตกในภาคเหนือตอนบนและอีสานตอนกลาง จนมีน้ำเติมเข้ามาในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร 

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น มีทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว  ต้องเร่งจัดการบริหารน้ำให้มีประสิทธิภาพ ปริมาณเพียงพอ ต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยเฉพาะพืชหลัก เช่น ข้าว จะทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ส่วนข้าวที่เสียหายไปแล้ว ได้สั่งให้เกษตรจังหวัดเกษตรอำเภอและเกษตรตำบล เข้าไปสำรวจความเสียหาย หากเข้าข่ายหลักเกณฑ์ก็จะจ่ายเงินชดเชยให้  สำหรับพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดน้ำอุปโภคบริโภค ก็ได้ส่งรถน้ำเข้าไปดูแลแล้ว  ขณะที่ การแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้สำรวจพบแหล่งน้ำทำฝายกักเก็บน้ำเริ่มศึกษา วิธีการเติมน้ำให้เขื่อน มือสองเขื่อนใหญ่ เพราะต้องดูแลพื้นที่เกษตรกรกว่า 10 ล้านไร่  

“ยืนยัน ทำงานทุกวัน ทั้งการทำฝนเทียมที่ต้องสำรวจพื้นที่ที่สามารถทำได้ แม้จะมีรัฐมนตรีถึง 4 คน แต่ก็ทำงานกันด้วยความราบรื่น ไม่มีปัญหาและประสานงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว” นายเฉลิมชัย กล่าว

จากนั้น นายพรเพชรได้แจ้งสมาชิกว่า วิป 3 ฝ่ายมีความห่วงใยเรื่องเวลา จึงต้องการให้ฝ่ายรัฐบาลไปตกลงเรื่องกรอบเวลาใหม่ เนื่องขณะนี้คณะรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงเกือบครบ 5 ชั่วโมงแล้ว เพื่อไม่ต้องนัดประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.)   . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย