นายกฯ ยืนยัน รัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

หอประชุม ทีโอที 26 ก.ค.- การแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาวันที่ 2 นายกฯ ยืนยัน รัฐบาลวางแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ภัยแล้งอย่างเป็นระบบ รวมถึง ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น  ไม่ยกเว้นหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 


 การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล วันนี้ (26 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 2 มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เปิดให้ตัวแทนทั้ง 3 ฝ่ายหารือเรื่องเวลาในการอภิปราย เนื่องจากเวลาเหลือ 16 ชั่วโมงกว่า ซึ่งจะทำให้เกินเที่ยงคืนของวันนี้ไปหลายชั่วโมง 

ประธานอนุญาต “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เข้าประชุมต่อได้


ระหว่างนั้น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ใช้สิทธิ์หารือ ขอให้ที่ประชุมปฏิบัติตามข้อบังคับโดยระบุว่า “เนื่องจากวานนี้ (25 ก.ค.) ประธานในที่ประชุมได้เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ออกจากห้องประชุม แล้วเหตุใด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงเสนอหน้าเข้ามานั่งอยู่ในห้องประชุมได้ ท่านประธานเชิญกลับมาหรือเปล่า”  ทำให้เกิดการประท้วงกันวุ่นวาย โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประท้วงขอให้ น.ส.ปวีณา ถอนคำพูด เพราะทำผิดข้อบังคับการประชุมพูดเสียดสีคนอื่น 

อย่างไรก็ตาม นายพรเพชรได้ห้ามปามสมาชิก และวินิจฉัยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกเชิญออกจากห้องประชุมโดยไม่มีกำหนดเวลา แต่วันนี้เวลาได้ผ่านมาแล้ว จึงกลับเข้าร่วมประชุมได้ตามปกติ 

สมาชิกขอให้ทบทวนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ


จากนั้น สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายเน้นถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เห็นว่า แม้มีการวางไว้ครอบคลุมแล้ว แต่รัฐบาลจะต้องวางกรอบแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจให้ชัดเจน เพื่อรองรับกับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึง ขอให้ทบทวนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างรอบคอบ เพราะที่ผ่านมาเมื่อปรับขึ้นราคาสินค้าก็จะปรับสูงขึ้นตามมาด้วย  ไม่สามารถช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง

นายกฯ ยืนยันทำอย่างเป็นระบบ                        

นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจง ยืนยันรัฐบาลได้วางแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น คณะกรรมการไตรภาคีจะเป็นผู้พิจารณาแต่รัฐบาลพร้อมที่จะรับไปดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะการปรับค่าแรงจะกระทบผู้ประกอบการและราคาสินค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ปัญหา จะเน้นเรื่องการพัฒนาฝีมือแรงงาน

ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลควรมีการปรับยุทธศาสตร์ในเรื่องของการลงทุน เนื่องจากขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม มีการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น  นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต่างประเทศรัก และชอบประเทศไทย แต่ไม่ชอบการประท้วง ซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความสงบเรียบร้อย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนและการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การสร้างโรงแรมพื้นที่บนเขา ไทยไม่สามารถให้สิทธิประโยชน์เหล่านั้นได้ทั้งหมด ขณะที่ไทยเองยังมีปัญหาเวลาจะมีการลงทุนใหม่ๆ โดยเกิดจากความไม่เข้าใจของประชาชน ดังนั้นทุกอย่างต้องมองในภาพรวมก่อน ว่าอะไรจะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเตรียมการปฎิรูปทั้งระบบให้ทันการเปลี่ยนแปลง  และทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือ เพราะถ้าไม่ร่วมมือก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้งนี้ไทยก็ต้องสร้างการลงทุนและโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ไทยมีความเจริญเติบโตสูงขึ้น

นายกฯ แจงแก้ปัญหาภัยแล้ง-เกษตร-ทุจริต

นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาได้สอบถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเกษตกร และการตรวจสอบการทุจริตในกรณีต่างๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการสำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะการผลักดันในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ชี มูล เข้าสู่ภาคเกษตรในทุกหมู่บ้าน แต่ปัญหาที่พบคือ ไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ แต่รัฐบาลก็ยังคงต้องเดินหน้าศึกษาและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป เช่นเดียวกับปัญหาของเกษตรกร ที่ส่วนตัวมองว่า วันนี้เกษตรกรทำนา แต่ไม่ได้เงิน เพราะมีแต่หนี้ ที่ไปกู้ยืมมา ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้าไปดูแลในเรื่องนี้ ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อลดปัญหาหนี้สินของเกษตรกร รวมถึง พิจารณาถึงปริมาณการผลิต และความต้องการของตลาด ให้มีความสมดุลกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง แนวทางการป้องกันทุจริตคอรัปชั่นในหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งมีข้อเรียกร้องจากพรรคร่วมรัฐบาลให้ดำเนินการตรวจสอบ ว่า การดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากพบว่ามีความผิด ก็ต้องถูกลงโทษ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเอามาพูดกันก่อน เพราะจะทำให้เกิดความวุ่นวาย

แนะขับเคลื่อนงานการทูตเชิงรุก

นอกจากนี้ สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลอภิปรายว่า ต้องการให้รัฐบาลขับเคลื่อนงานการทูตเชิงรุก โดยเน้นกลุ่มประเทศตะวันกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอยากให้รัฐบาลเชิญชวนเข้ามาลงทุนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องการขยายสนามบินที่นราธิวาส 

นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล เพราะตนมีความสนิทสนมกับผู้นำหลายประเทศด้วยกัน  และซาอุดิอาระเบีย ก็ได้เชิญตนเดินทางไปเยือน รวมถึงเยือนกลุ่มประเทศอาหรับด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะมีความร่วมมือที่ดีขึ้น รวมถึงเรื่องแรงงานด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การปฏิรูปโครงสร้างราคาพลังงาน ว่า รัฐบาลมีแผนปฎิรูปพลังงานที่ใช้ในการควบคุมอยู่แล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญการใช้พลังงานทดแทน  ซึ่งในด้านน้ำมัน ก็ส่งเสริมการใช้ บี 20 มากขึ้น และจะส่งเสริมให้นำไบโอดีเซลไปใช้ในระบบขนส่งมวลชน ส่วนการส่งเสริมการใช้ยางพารา ทางรับาลได้ติดต่อกับกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งมีความสนใจที่จะลงทุนนำยางพาราไปทดสอบการทำถนน

รมว.เกษตรฯ แจงปัญหาภัยแล้ง

จากนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงนโยบายรัฐบาล หลังจากสมาชิกอภิปรายเรื่องปัญหาภัยแล้ง ว่า  ได้รับฟังทุกความเห็น เพื่อนำไปเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการแก้ไข ต้องยอมรับว่า ช่วง 2-3เดือนที่ผ่านมา ฝนทิ้งช่วง แต่ก็โชคดีที่มีมรสุมพัดผ่านเข้ามา ทำให้ฝนตกในภาคเหนือตอนบนและอีสานตอนกลาง จนมีน้ำเติมเข้ามาในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร 

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น มีทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว  ต้องเร่งจัดการบริหารน้ำให้มีประสิทธิภาพ ปริมาณเพียงพอ ต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยเฉพาะพืชหลัก เช่น ข้าว จะทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ส่วนข้าวที่เสียหายไปแล้ว ได้สั่งให้เกษตรจังหวัดเกษตรอำเภอและเกษตรตำบล เข้าไปสำรวจความเสียหาย หากเข้าข่ายหลักเกณฑ์ก็จะจ่ายเงินชดเชยให้  สำหรับพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดน้ำอุปโภคบริโภค ก็ได้ส่งรถน้ำเข้าไปดูแลแล้ว  ขณะที่ การแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้สำรวจพบแหล่งน้ำทำฝายกักเก็บน้ำเริ่มศึกษา วิธีการเติมน้ำให้เขื่อน มือสองเขื่อนใหญ่ เพราะต้องดูแลพื้นที่เกษตรกรกว่า 10 ล้านไร่  

“ยืนยัน ทำงานทุกวัน ทั้งการทำฝนเทียมที่ต้องสำรวจพื้นที่ที่สามารถทำได้ แม้จะมีรัฐมนตรีถึง 4 คน แต่ก็ทำงานกันด้วยความราบรื่น ไม่มีปัญหาและประสานงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว” นายเฉลิมชัย กล่าว

จากนั้น นายพรเพชรได้แจ้งสมาชิกว่า วิป 3 ฝ่ายมีความห่วงใยเรื่องเวลา จึงต้องการให้ฝ่ายรัฐบาลไปตกลงเรื่องกรอบเวลาใหม่ เนื่องขณะนี้คณะรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงเกือบครบ 5 ชั่วโมงแล้ว เพื่อไม่ต้องนัดประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.)   . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย