กนอ.เตรียมนำเทคโนโลยีญี่ปุ่นเป็นต้นแบบจัดการขยะอุตสาหกรรม

ฮอกไกโด 26 ก.ค. – กนอ.ศึกษาความก้าวหน้าเทคโนโลยีบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น พร้อมเตรียมนำมาเป็นต้นแบบที่จะพัฒนาใช้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคตรองรับการเติบโตของการลงทุนในอีอีซีและอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน 


นายจักรรัฐ เลิศโอภาส รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดให้อุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือ Circular Economy เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และทิศทางการลงทุนในไทยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะอีอีซี ดังนั้น กนอ.จึงเดินหน้าศึกษาเทคโนโลยีการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรม เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะขยะที่มีโลหะหนัก เช่น ปรอท ปัจจุบันขยะเหล่านี้ยังไม่มีเทคโนโลยีจัดการและได้ส่งออกมาจัดการที่ประเทศญี่ปุ่นมีเทคโนโลยีการกลั่นปรอทขั้นสูง ซึ่ง กนอ.นำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานที่โรงงานอิโตมูกะ ของบริษัทโนมูระโคซัง จำกัด Nomura Kohsan Co.,Ltd.  ที่ได้มาตรฐาน ISO 14001 ที่ฮอกไกโด ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และยังให้ความสนใจโครงการทดสอบเทคโนโลยีดักจับและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือซีเอสเอส ของบริษัท เจแปน ซีซีเอส เมืองฮอกไกโด เพื่อนำมาปรับใช้ในการกำกับดูแลโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมของไทยที่ปัจจุบันมุ่งใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งทั่วประเทศที่เปิดดำเนินการแล้วให้เข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศภายในปี 2564 


สำหรับบริษัทโนมูระ โคซัง จำกัด เป็นธุรกิจรวบรวมของเสียที่มีปรอทปนเปื้อนจากทั่วโลก รวมทั้งไทยส่งมาจัดการและยังรวบรวมจาก 47 จังหวัดของญี่ปุ่น แบ่งเป็นแบตเตอรี่แห้งปีละ 13,000 ตัน หลอดฟลูออเรสเซนต์ใช้แล้ว 8,000 ตันต่อปี และของเสียที่มีปรอทอื่น ๆ อีก 6,000 ตันต่อปี ของเสียเหล่านี้ถูกบำบัดและจัดเก็บผ่านเทคโนโลยีการกลั่นปรอทขั้นสูง จนสามารถนำปรอทบริสุทธิกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้งถึงปีละ 50 ตัน ส่งออกไปยังประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย เป็นต้น  

ส่วนโครงการทดสอบเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ของบริษัท เจแปน ซีซีเอส ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโดเป็นโครงการสาธิตที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นหรือเมติ เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งไทยมีการศึกษาเทคโนโลยีดังกล่าวเช่นกัน แต่การจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ต้องอาศัยความพร้อมหลายด้านต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก