จับพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก 2 ขวบ อาการโคม่า ก้านสมองตาย

สมุทรปราการ 25 ก.ค. – เหตุทำร้ายเด็กมีให้เห็นต่อเนื่อง ล่าสุดที่ จ.สมุทรปราการ แม่นำลูกวัย 2 ขวบ ไปเลี้ยงที่บ้านพี่เลี้ยงแบบกินนอน ค่าจ้างเดือนละ 6,500 บาท เลี้ยงเด็กได้แค่ 13 วัน ก็เกิดเหตุเด็กถูกทำร้ายอาการโคม่า ก้านสมองตาย นอนไม่ได้สติ ตำรวจสามารถจับตัวได้ อ้างเด็กดื้อ กัดและทุบตีเด็กจริง แต่ปฏิเสธทำร้ายเด็กจนก้านสมองตาย 


คำสารภาพจากปากของพี่เลี้ยงที่ทำร้ายร่างกายน้องดิว อายุ 2 ขวบ 5 เดือน จนอาการโคม่า หลังตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตามจับได้ช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ 


“นางมยุรี” ผู้ต้องหาอ้างว่าที่หนีเพราะครอบครัวเด็กขู่ทำร้าย ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายเด็ก เพราะโมโหที่เด็กดื้อ อุจจาระใส่เสื้อผ้า ยืนยันแค่กัด หยิกที่ใบหู ใช้มือตบหลัง และใช้ขวดน้ำพลาสติกเปล่าตีที่หัวเด็ก 1 ครั้ง เพื่อให้เด็กหลาบจำ พร้อมระบุด้วยว่าเด็กขึ้นลงบันไดบ้านพักเองและตกลงมาที่พื้นหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม เวลา 23.00 น. ก่อนจะชักเกร็ง และนำส่งโรงพยาบาล ปฏิเสธทำร้ายเด็กจนก้านสมองตาย ยอมรับเครียดมาก บวกกับป่วยเป็นมะเร็งที่มดลูกและกรวยไต รักษามา 3 ปีแล้ว


ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านนางมยุรี ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ พบเป็นกระต๊อบมุงจาก ไม่มีเลขที่บ้าน มีของเล่นเด็ก สิ่งของกระจัดกระจายอยู่เต็มใต้ถุนบ้าน

เพื่อนบ้านเล่าว่า ผู้ต้องหามีอารมณ์โมโหร้าย เสียงดัง น้องดิวเป็นคนแรกที่รับมาเลี้ยง ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร ยืนยันไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง เด็กคนนี้ไม่ดื้อ เวลาถามถึงน้องดิว ผู้ต้องหาจะอ้างตลอดว่าเด็กหลับ 

ส่วนน้องดิว ขณะนี้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แพทย์ระบุว่าอาการยังโคม่า ก้านสมองตาย นอนไม่ได้สติ มีรอยเขียวช้ำที่หน้าอกและด้านหลัง อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ แม่ของเด็กยื้อชีวิตเพื่อรอพ่อแท้ๆ ซึ่งกำลังเดินทางมาจาก จ.สงขลา

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่สอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏเชื่อว่าผู้ต้องหาใช้ของแข็งทุบ ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลครอบครัวของเด็ก ขอให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้าย 

สำหรับบทลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 297 ทำร้ายผู้อื่นเป็นหตุได้รับอันตรายสาหัส โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี ถ้าเด็กเสียชีวิต จะเป็นเรื่องของทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

► หมอให้ญาติทำใจ! เหยื่อพี่เลี้ยงโหด ตีเด็กอาการโคม่า

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ