ทีโอที 25 ก.ค.- “ปิยบุตร” เปรียบนโยบายรัฐ เลื่อนลอย โลเล หลอกลวง เรียกร้องนายกฯ พาคนลี้ภัยทางการเมืองกลับประเทศ
ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม การแถลงนโยบายรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เมื่อเวลา 13.30 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า การเขียนนโยบายของรัฐบาลชุดนี้มีลักษณะ “เลื่อนลอย โลเล หลอกลวง” เขียนในลักษณะซ้ำซ้อนไม่ชัดเจนว่าต้องการอะไร หลายนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงไม่ได้ถูกนำมาบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาล ส่วนนโยบายหลัก 12 ด้าน อาทิ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนเห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันหลักที่ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ตนขอให้ข้อสังเกตว่า การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุด มิใช่การนำสถาบันมาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างกันทางการเมือง ใส่ร้ายป้ายสีกัน และมิใช่เป็นเครื่องมือในการเปิดโอกาสให้กองทัพเข้ามายึดอำนาจ แต่การเชิดชูสถาบันคือการสร้างประชาธิปไตยให้มั่นคง สถาบันพระมหากษัตริย์จึงจะมั่นคงสถาพร ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าเราสนับสนุนการปกป้องเชิดชูสถาบัน แต่ย้ำว่าอีกครั้งว่าจะต้องไม่นำมาใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองซึ่งกันและกัน
นายปิยบุตร กล่าวว่า การสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย และความสงบสุขของประเทศ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีที่อยู่ให้กับการรัฐประหาร และไม่มีที่อยู่ให้กับกองทัพได้อยู่เหนือรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น หากครม.ชุดนี้ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปในการเสริมสร้างการปกครอง จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยกันไม่ให้มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีก และต้องทบทวนประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาตามมาตรา 44 ซึ่งคำสั่งออกมาจำนวนมากและกระทบทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องการเมือง ต้องมีกระบวนการปรองดองเปลี่ยนผ่านเพื่อให้ประเทศเดินหน้า และต้องแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 279 เรื่องประกาศคำสั่งคสช. ที่ชอบด้วยกฎหมาย หากทำได้ทั้งหมดนี้เราจะได้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างยั่งยืน ความขัดแย้งในประเทศไทยจะลดลง เราจะได้กองทัพที่เป็นมืออาชีพ ได้ศาลที่กลับมาสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ส่วนความรักชาติ ขอให้อย่ามองว่าพรรคการเมือง นักการเมือง และประชาชน ที่เห็นไม่ตรงกับท่านเป็นคนไม่รักชาติ แต่เพราะรักมากจึงต้องวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดี ครม.เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของชาติ และองค์ประกอบหนึ่งของการใช้อำนาจบริหาร ดังนั้น อย่าตั้งข้อหาเรื่องชังชาติต่อกัน ไม่เช่นนั้นประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ นอกจากนี้ พรรคอนาคตใหม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขาดความเป็นประชาธิปไตย ทั้งเรื่องของที่มาและเนื้อหา จึงต้องร่างใหม่ทั้งฉบับ และต้องทำอย่างจริงจังไม่เลื่อนลอย เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมือนกับดักที่พร้อมระเบิด หากอยากให้บ้านเมืองเดินไปได้ต้องทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตนอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันเชิญวิญญาณรัฐธรรมนูญ 40 กลับมา หยุดการแก้แค้นเอาคืนเหมือนรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับที่ผ่านมา
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวด้วยว่า พวกเราชาวอนาคตใหม่รักชาติบ้านเมืองเทิดทูนสถาบันไม่น้อยไปกว่าใคร แต่การแสดงออกอาจแตกต่างกัน เรายืนยันในความรักชาติไม่มีความคิดล้มล้าง ไม่มีความคิดรุนแรง เพียงต้องการให้บ้านเมืองกลับสู่ระบบปกติ ที่เป็นนิติรัฐ และประชาธิปไตย เราไม่ได้คิดตั้งตนเป็นศัตรูกับกองทัพ แต่เราไม่ต้องการให้รัฐบาลพลเรือนไปอยู่ภายใต้กองทัพ เราไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับศาลใด แต่ต้องการความยุติธรรมเท่านั้น พรรคอนาคตใหม่พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และทุกองค์กร เพื่อนำประชาธิปไตยกลับมา และร่วมกันเดินหน้าแสวงหาอนาคตด้วยกัน
นายปิยบุตร กล่าวถึงการสร้างความปรองดองตามนโยบายของรัฐบาลว่า มีผู้คิดเห็นทางการเมืองแตกต่างจากรัฐบาลยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 หลายคนลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคนเหล่านั้น ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงขอฝากผ่านประธาน ไปยังนายกรัฐมนตรี ให้พานักโทษทางการเมืองกลับคืนสู่ประเทศ การพากลับประเทศนั้น รัฐบาลจะต้องมีหลักประกัน ในเรื่องของคดีความ ต้องตีเป็นคดีการเมือง ทั้งนี้รัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เคยออกนโยบาย 66/23 จนนำไปสู่ความปรองดองได้สำเร็จ.-สำนักข่าวไทย