กรุงเทพฯ 24 ก.ค.- ผู้เสียหายเข้าร้องกองปราบ ถูกตำรวจอุ้มรีดและทำร้ายร่างกายเค้นข้อมูลหาที่กบดานสามี หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวเป็นตำรวจนำครอบครัวไปกักขังและทำร้ายร่างกาย มาร้องขอความเป็นธรรม กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อสืบสวน และดำเนินคดีกับตำรวจที่เกี่ยวข้องในข้อหา ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ /กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย
โดยหญิงผู้เสียหาย ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาได้ถูกกลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจ ใน จ.กระบี่ ข่มขู่และนำตัวตนเองและญาติรวม 6 คน โดยนำตัวขึ้นรถเดินทางไปจังหวัดกระบี่ บังคับเค้นเอาข้อมูลที่อยู่ของสามี ที่ตำรวจอ้างว่าสามีเป็นผู้กระทำผิดฆ่าผู้อื่นเสียชีวิตในเขตพื้นที่ สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ แต่ตอนนั้นไม่สามารถจดจำข้อมูลได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน จึงถูกทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีหลายครั้ง จนสุดท้ายไปที่บ้านแม่ของสามี แต่ก็ไม่พบตัว กลุ่มชายดังกล่าวจึงนำตัวผู้เสียหายและครอบครัวไปที่ สภ.ปลายพระยา ก่อนจะนำกลับมาส่งที่บ้าน โดยระยะเวลาที่ควบคุมตัวเกือบ 21 ชั่วโมง
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางสวรรค์ และ สภ.เวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ อ้างว่าหลักฐานไม่เพียงพอจะเอาผิด จึงมาร้องของความเป็นธรรมที่กองปราบปราม โดยผู้เสียหายได้นำหลักฐานการตรวจร่างกายที่ระบุว่า มีรอยฟกช้ำทางร่างกายมาเป็นหลักฐานด้วย
ขณะที่ทนายรณณรงค์ ระบุว่าวิธีการสอบสวนโดยนำพยานไปรีดเค้น ทำร้ายกาย เป็นการกระทำโดยมิชอบโดยกฎหมาย ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่จริงก็จะเข้าข่ายความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว แม้ว่าสามีผู้เสียหายจะกระทำผิดจริงหรือไม่ ก็ไม่ควรใช้วิธีการเช่นนี้.-สำนักข่าวไทย