กทม. 23 ก.ค.- ‘อัศวิน’ เผย รองผู้ว่า กทม.ลาออกจริง เหตุผลส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับโครงการเตาเผาขยะตามที่เป็นข่าว ที่ผ่านมาเคยเปรยลาออกมาแล้ว 2 ครั้ง
พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม.ลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่าเกิดจากปัญหาโครงการเตาเผาขยะเจ้าปัญหามูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวยอมรับว่า นายจักกพันธุ์ ยื่นหนังสือลาออกจริง โดยให้เหตุผลว่า ต้องการพักผ่อน และเหนื่อยกับการทำงาน ที่ผ่านมาก็เคยมาพูดคุยเรื่องลาออกมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าว่าจะออกแต่อย่างใด ทำหนังสือลาออกเลย ส่วนตัวรู้สึกตกใจ แต่ก็ยอมรับการตัดสินใจ เพราะนายจักกพันธุ์ เป็นคนมีคุณภาพ ขยันทำงาน ไว้ใจได้ และขี้เกรงใจ ดูแลรับผิดชอบหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็เป็นงานที่หนัก ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องทะเลาะกัน เพราะส่วนตัวสนิทกันมาก ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเชื่อมโยงกับโครงการเตาเผาขยะไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากโครงการก็อยู่ระหว่างดำเนินการ
ขณะที่แหล่งข่าวในศาลาว่าการ กทม. ให้ข้อมูลว่า บรรยากาศห้องทำงานของนายจักกพันธุ์ บริเวณชั้น 2 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ห้องทำงานปิดเงียบ และเก็บของออกจากห้องทำงานตั้งแต่ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาแล้ว หลังยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคมที่ผ่านมา
ด้าน นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องนี้หลังมีกระแสข่าวลือหนาหูว่า ปมปัญหาการลาออกของ นายจักกพันธุ์ ถูกเชื่อมโยงเข้ากับโครงการเตาเผาขยะ ว่า ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุ แต่หลังมีเอกชนบางรายไปร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสของโครงการ ทางคณะทำงานก็ได้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แล้ว โดยยืนยันว่าโครงการเตาเผาขยะทั้ง 2 แห่ง เป็นไปด้วยความโปร่งใส และพร้อมให้ตรวจสอบทุกขั้นตอน พร้อมระบุว่า บริษัทเอกชนผู้ร้องเรียน มีคุณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไขบางประการ ทั้งสัญญาให้เอกชนมาลงทุนและบริหารจัดการ ซึ่งเมื่อครบสัญญาให้ยกทรัพย์สินเป็นของกรุงเทพมหานคร รวมทั้ง รายงาน EIA ที่เอกชนผู้ร้องเรียนรายนี้มีคุณสมบัติไม่เพียงพอ
โครงการเตาเผาขยะที่หนองแขม และอ่อนนุช ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการประกวดราคาจากผู้รับเหมาโครงการที่อ่อนนุช 8 ราย และที่หนองแขม 5 ราย ซึ่งเงื่อนไขของโครงการดังกล่าว จะมอบหมายให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งการก่อสร้าง และการบริหารจัดการขยะ ตามสัญญา 20 ปี เมื่อหมดสัญญาทรัพย์สินจะเป็นของกรุงเทพมหานคร โดยกรุงเทพมหานคร จะว่าจ้างให้เอกชนดำเนินการทำลายขยะด้วยวิธีการเผา ในราคาตันละไม่เกิน 900 บาท รวม 20 ปีตามสัญญา จะมีมูลค่าถึง 13,140 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย