ภูมิภาค 22 ก.ค.-ฝนทิ้งช่วงรุนแรง! ปริมาณน้ำเขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา เหลืออยู่เพียง 23 ล้าน ลบ.ม. ของความจุอ่าง ต้องปิดป้ายประกาศห้ามลอยอังคาร เกรงกระทบต่อคุณภาพน้ำ ส่วน จ.บึงกาฬ น้ำโขงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังกระทบเรือโดยสาร
สถานการณ์ภัยแล้งฝนทิ้งช่วงรุนแรงมากขึ้น ปริมาณน้ำเขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา เหลืออยู่เพียง 23 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 14% ของความจุ ล่าสุดเขื่อนต้องปิดป้ายประกาศ “ห้ามนำห่อบรรจุอัฐิมาลอยอังคารและทิ้งสิ่งปฏิกูลทุกชนิดลงในอ่างเก็บน้ำ หากฝ่าฝืนจะมีการแจ้งความดำเนินคดี” เนื่องจากเกรงผลกระทบต่อคุณภาพน้ำที่เหลืออยู่น้อยมาก ซึ่งทางเขื่อนต้องส่งน้ำให้กับการประปาส่วนภูมิภาค อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย เฉลี่ยวันละ 80,000 ลูกบาศก์เมตร ลดลงจากก่อนหน้านี้วันละ 300,000 ลูกบาศก์เมตร
ขณะเดียวกันได้ประชุมกลุ่มผู้ใช้น้ำ ตัวแทนเกษตรกร มีข้อสรุปว่าจำเป็นต้องระงับการส่งน้ำเพื่อการเกษตรพื้นที่เขตชลประทาน 75,000 ไร่ อย่างสิ้นเชิง ไปจนกว่าจะมีฝนตกและมีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นให้อยู่ที่ระดับ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 20% ถึงจะมาพิจารณาการส่งน้ำเพื่อทำนาปีอีกครั้ง
ที่ จ.บึงกาฬ น้ำในแม่น้ำโขง บริเวณหน้าสำนักงานด่านศุลกากร บ.นาเหนือ เช้าวันนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 20 เซนติเมตร อยู่ที่ 2.42 เมตร ยังต่ำกว่าตลิ่งราว 11 เมตร เกิดสันดอนทรายกลางแม่น้ำโขงยาวกว่า 3 กิโลเมตร เรือโดยสารต้องแล่นอ้อมสันดอนทราย ทำให้ระยะทางเดินเรือไกลขึ้นจากเดิม 3 เท่าตัว สร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าของเรือไทย-ลาว แต่ยังดีที่ราคาน้ำมันไม่แพง ขณะที่ราคาค่าโดยสารยังเก็บเท่าเดิม คือคนละ 60 บาท ขณะที่พยากรณ์อากาศของกรมอุตุฯ ระบุช่วงนี้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบาง.-สำนักข่าวไทย