24 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือน “พายุวิภา” ฉบับสุดท้าย อ่อนกำลังลง แต่ยังเสี่ยงท่วม 19 จังหวัด ขณะที่น้ำโขงขึ้นวันเดียวเกือบ 2 เมตร เฝ้าระวังล้นตลิ่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “วิภา” ปกคลุมบริเวณตอนบนของภาคเหนือ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีก โดยมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน ออกไปทางประเทศเมียนมา 25-26 ก.ค.นี้
โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก วันนี้ ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร, ภาคอีสาน นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี, ภาคกลาง อุทัยธานี และกาญจนบุรี, ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
น้ำท่วมเทศบาลเมืองดอกคำใต้ ยังไม่คลี่คลาย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ จ.พะเยา ยังไม่คลี่คลาย จนถึงขณะนี้ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้าง เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน โดยระดับน้ำอยู่ที่ 80 เซนติเมตร ถึง 1.20 เมตร ทำให้ชาวบ้านบางรายไม่สามารถออกจากบ้านได้ ขณะที่พระวัดพระธาตุจอมศิล ได้นำน้ำ อาหาร ไปมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านปิน อำเภอดอกคำใต้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ซึ่งบางรายต้องอพยพมาอยู่ที่ทำการขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านปิน และบางส่วนไม่สามารถที่จะเดินทางออกจากบ้านได้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่สูง
ขณะที่เทศบาลเมืองดอกคำใต้ ขณะนี้มวลน้ำที่ได้รับจากต้นน้ำทั้งตำบลหนองหล่มตำบลบ้านปิน ได้เข้ามารวมตัวกันที่บริเวณเขตเทศบาล ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านหลายร้อยหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ บางพื้นที่ระดับน้ำอยู่ในระดับที่สูง ชาวบ้านไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตตามปกติได้ เนื่องจากน้ำยังคงสูงอยู่
น้ำโขงขึ้นวันเดียวเกือบ 2 เมตร เฝ้าระวังล้นตลิ่ง
ส่วนจังหวัดหนองคาย ฝนตกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ยังไม่มีท่าทีว่าฝนจะหยุด ขณะเดียวกันระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย วัดได้ 10.45 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 1.73 เมตร เป็นระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 1.75 เมตร ซึ่งตลิ่งในตัวเมืองหนองคายรองรับน้ำได้ที่ระดับ 12.20 เมตร ปริมาณน้ำฝน 5.6 มม.
ทางจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อม ขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ระดมกรอกกระสอบทราย วางเป็นแนวกั้นบริเวณริมโขง ซึ่งมีลำห้วยวังฮู ลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงที่มีความเสี่ยงน้ำจะล้นลำห้วย ดันเข้าท่อระบายน้ำและไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้อย่างทันท่วงที หากปริมาณน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย