“อนุทิน” เข้าทำงานวันแรก พร้อมขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล

ทำเนียบฯ 19 ก.ค.-“อนุทิน” เข้าทำงานทำเนียบฯ วันแรก พร้อมแถลงนโยบายรัฐบาล และขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย ย้ำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องหารือทุกพรรค


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยทีมงาน เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มจากการสักการะท้าวมหาพรหม ที่ประดิษฐานอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า และลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย เพื่อเป็นสิริมงคล

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ในส่วนของรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ได้รับร่างนโยบายและเตรียมความพร้อมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ทั้งนี้สิ่งที่เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์จากกัญชา ได้บรรจุอยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลอยู่แล้ว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเตรียมจะขับเคลื่อนเรื่องนี้


“ขอยืนยันว่าทุกอย่างต้องเริ่มต้นทันทีและพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำประโยชน์จากกัญชามาใช้ และในอนาคตอาจจะต้องพิจารณานำกัญชงมาใช้ประโยชน์ด้วย ส่วนนโยบายให้ปลูกกัญชาได้บ้านละ 6 ต้นนั้น ขณะนี้ต้องเริ่มต้นจากโรงพยาบาลผ่านเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งทุกอย่างต้องพยายามทำความเข้าใจให้เกิดความเข้าถึงและเข้าใจ และใช้อย่างเหมาะสมที่สุด และหากจะให้มีการใช้อย่างเสรี ต้องปลูกฝังให้เกิดความมีวินัย เข้าใจประโยชน์และโทษของกัญชาอย่างแท้จริง” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างมีความพร้อมในการขับเคลื่อนตามนโยบายที่ชัดเจนของรัฐมนตรี ซึ่งในการทำงานนั้น รัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายและดูผลลัพธ์ ไม่ใช่ผู้ปฎิบัติ ดังนั้นฝ่ายปฏิบัติต้องหาวิธีการให้สำเร็จตามเป้าหมาย และหากไม่สามารถทำได้ ต้องพิจารณาหาคนที่สามารถทำได้มาทำแทน ทั้งนี้สิ่งที่เป็นเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทยที่สำคัญ คือ การลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชนเพื่อปากท้องของประชาชน

ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรีนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะต้องชี้แจง เพราะเรื่องเหล่านี้ ทั้งการกล่าวหาและการชี้แจง ต้องใช้เอกสารหลักฐานทั้งสิ้น โดยเฉพาะกรณีการถือหุ้นฯ ก็สามารถตรวจสอบไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ นอกจากยังมีข้อกฎหมายในการดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วย


นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงานจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องรอภายหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้ว คาดว่าจะได้รับมอบหมายงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงของรัฐมนตรีที่พรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่

สำหรับโควตารองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่โควตา เพราะเป็นเรื่องของการทำงานร่วมกัน แต่ทั้งนี้หากมีอัตรามาให้พรรคภูมิใจไทย ก็จะพิจารณาบุคคลและเสนอชื่อไป ทั้งนี้ภายในพรรค มีแคนดิเดตอยู่หลายคน และโดยตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งตอบแทน เพราะการทำงานต้องดูความเหมาะสม ซึ่งรองโฆษกรัฐบาล ต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในหลายด้าน

ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มองว่าเป็นเพียงประเด็นที่ถูกระบุไว้ในการแถลงนโยบายเพียงกว้าง ๆ เท่านั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ประเด็นนี้ถือเป็นนโยบายของพรรคการเมืองที่มีความตั้งใจ หรือให้น้ำหนักกับเรื่องนี้มากน้อยแตกต่างกัน แต่อย่างน้อยประเด็นนี้ก็ถูกบรรจุไว้แล้ว ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เน้นเรื่องการทำงานมาก่อน แต่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องคุยในวงใหญ่ ไม่สามารถทำได้คนเดียว ทั้งนี้ในส่วนของพรรคพอใจต่อนโยบายที่จะแถลง เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเองพร้อมที่จะรับฟังความเห็นทุกพรรค

ส่วนมุมมองในฐานะนักการเมืองมองบทบาทของนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อนหน้านี้และได้เข้ามาทำงานร่วมกัน นายอนุทิน กล่าวว่า เวลานี้ ต่างคนต่างก็ร้องเพลงจงรัก ซึ่งนายอนุทินได้พูดถึงเนื้อเพลงช่วงหนึ่งว่า “โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ” พร้อมกล่าวติดตลกว่า “รักตลอดไปหรือเปล่านั้น ยังไม่รู้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอนุทิน ได้นำสื่อมวลชนขึ้นไปเก็บภาพบนห้องทำงานชั้น 3 ตึกบัญชาการ  1 โดยนายอนุทิน ระบุว่า ยังไม่ได้อัญเชิญพระพุทธรูปเข้ามาภายในห้องทำงาน ซึ่งหลังจากนี้จะอัญเชิญพระพุทธรูปที่เป็นมงคลเข้ามา ส่วนการแบ่งเวลาการทำงานระหว่างทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะพิจารณาตามวาระงานและความเหมาะสมกับเวลา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว