นายกฯ แถลงขอบคุณทุกฝ่ายหลังคสช.สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – “พล.อ.ประยุทธ์” อำลาประชาชน ในโอกาส คสช.จะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ และขอบคุณทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกับคสช.ตลอด 5 ปี  ย้ำประเทศไทยเข้าสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ตามแบบนานาอารยประเทศ ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขตามกฎเกณฑ์ปกติ ไม่มีอำนาจพิเศษอีกต่อไป


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย อำลาประชาชนในโอกาส คสช. สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฎิญาณตน เข้ารับตำแหน่ง ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) 

สารจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรี ในโอกาสสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ พี่น้องประชาชนที่เคารพ ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562  และได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 อันนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้


บัดนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะรัฐมนตรีคณะใหม่ซึ่งจะเป็นคณะแรกภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในวันพรุ่งนี้คือวันที่  16 กรกฎาคม 2562 ซึ่งแม้จะเป็นการเริ่มการปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินหรือดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ตามหน้าที่และอำนาจได้เต็มที่จนกว่าจะได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้ว ซึ่งคาดว่าทุกขั้นตอนจะสำเร็จเรียบร้อยลงได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ นับแต่นั้นไป การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง  ราคาสินค้า  ราคาผลผลิตการเกษตร การแก้ปัญหาสังคม  ความเป็นอยู่ สวัสดิการ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหาการปกครอง การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การออกกฎหมาย และการเร่งรัดเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ทุกกลุ่มอาชีพรายได้ ทุกพื้นที่ต่างรอคอย   ก็จะได้รับการสานต่อและเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้รัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา 

พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เมื่อคณะรัฐมนตรีคณะใหม่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณและรับหน้าที่แล้ว คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ก่อนหน้านั้น และคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ลง ดังนั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีคณะเดิมจะสิ้นสุดภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ ในฐานะหัวหน้า  คณะรักษาความสงบแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีคณะเดิม 

ผมจึงขอถือโอกาสนี้อำลาพี่น้องประชาชนทั้งหลายและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่าน โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี  เจ้าหน้าที่ของ คสช. ข้าราชการการเมือง ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป และคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว 


และขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการและภาคท้องถิ่นที่ให้ความร่วมมือกับ คสช. และรัฐบาลด้วยดีตลอดมา หลายเรื่องท่านดำเนินการไปเองตามกฎหมายตามหน้าที่หรือด้วยจิตอาสาด้วยความเรียบร้อย  หลายเรื่องได้ดำเนินการคู่เคียงกับภาครัฐในรูปแบบการร่วมทุนหรือรูปแบบประชารัฐ ดังนั้นความสงบสุข การพัฒนาประเทศ และการแก้ปัญหาต่าง ๆ จึงสามารถเป็นไปได้ด้วยดี 

คสช.และรัฐบาลตระหนักดีว่า ความสำเร็จในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประชาชนทุกอาชีพรายได้ การเรียกความเชื่อมั่นในการปฏิบัติตามพันธสัญญาและการลงทุนจากต่างประเทศให้กลับคืนมา รวมทั้งการแก้ปัญหาเดิม ๆ ที่ค้างคาหมักหมมมานานปี การแก้ปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ การพิจารณาคดีต่าง ๆ ที่ค้างคาในกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องเป็นธรรม การออกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาเก่าและเดินหน้าไปสู่การพัฒนาใหม่อย่างยั่งยืน การดำเนินการเพื่อการปฏิรูปประเทศและการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ   ล้วนเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนัก ความเสียสละ ความอดทน และความร่วมมือร่วมใจของท่านทั้งหลายโดยแท้ 

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้ในยามวิกฤติที่บ้านเมืองมีความรุนแรง ความขัดแย้งและความเห็นต่าง การบริหารราชการ รวมถึงการบริหารจัดการด้านงบประมาณมีปัญหาอุปสรรคด้วยข้อกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับ  จนครั้งหนึ่งเมื่อ 6 – 7 ปีที่ผ่านมาต่างชาติเคยมองว่าเราแทบจะเป็นประเทศที่ล้มเหลวอยู่แล้ว แต่เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะฟื้นฟูชื่อเสียงเกียรติคุณ ความสงบเรียบร้อยและสิ่งดีงามของประเทศให้กลับคืนมาให้จงได้ เราก็สามารถดำเนินการได้อย่างดี เช่น เรียกเอาความเป็นเมืองน่าอยู่ น่าลงทุน น่าท่องเที่ยวกลับมา การจัดลำดับความยากง่ายในการทำธุรกิจเริ่มดีขึ้น การกำหนดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส การกำหนดขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ การแก้ปัญหาการบินพลเรือน การแก้ปัญหาค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าว การประมงผิดกฎหมาย ล้วนได้ผลดีขึ้นเป็นลำดับจนเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ

แม้แต่การแสดงออกซึ่งเมตตาธรรม มนุษยธรรม ความรอบรู้รอบคอบ และความรู้รักสามัคคีในการช่วยเหลือทีมเยาวชนหมูป่าออกมาจากถ้ำหลวง เชียงรายเมื่อปีที่แล้วและอื่นๆอีก นับเป็นการแสดงออกที่ประทับใจผู้คนไปทั่วโลก ล่าสุดคือการที่ไทยได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อปลายเดือนที่แล้วซึ่งต่างชาติชื่นชมว่าเราสามารถจัดได้เรียบร้อยน่าประทับใจและบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

มาถึงบัดนี้ ผมใคร่ขอให้พี่น้องประชาชนได้นึกทบทวนว่า บ้านเมืองของท่านในวันนี้มีอะไรดีขึ้นบ้าง เปลี่ยนแปลงบ้าง  หากมีส่วนที่ดีขึ้นกรุณาภาคภูมิใจเถิดว่านั่นคือผลจากความตั้งใจและความร่วมมือของเราทุกคนภายใต้พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งรัชกาลที่ 9 และรัชกาลปัจจุบัน สิ่งใดที่ยังไม่สำเร็จก็ต้องดำเนินการในรัฐบาลต่อไป ด้วยความรักความสามัคคีของคนในชาติ

ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราได้แสดงออกถึงพลังแห่งความสามัคคีและการมีวัฒนธรรมอันวิจิตรอลังการให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกเมื่อประเทศไทยประสบกับความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ คือการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แม้พี่น้องประชาชนทั้งหลายจะอยู่ในความวิปโยคอาลัยก็ได้ร่วมใจในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับรัฐบาลในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างน่าประทับใจด้วยความจงรักภักดี เมื่อเร็ว ๆ นี้เรายังได้ร่วมใจกันทั้งชาติอีกครั้งด้วยการร่วมกิจกรรมยิ่งใหญ่กับรัฐบาลในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติยศและสง่างาม เหตุการณ์สำคัญทั้งสองที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 5 ปีนี้จะจารึกอยู่ในความทรงจำของเราทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศตลอดไป

พี่น้องประชาชนที่เคารพรักครับ บัดนี้ ประเทศไทยได้เข้าสู่ขั้นตอนของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ มีสภาผู้แทนราษฎรซึ่งสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากความเห็นชอบของรัฐสภา สิทธิเสรีภาพต่าง ๆ ได้รับหลักประกันคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญตามแบบอย่างนานาอารยประเทศ ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขตามกฎเกณฑ์ปกติในระบอบประชาธิปไตยโดยไม่มีอำนาจพิเศษใด ๆ อีกต่อไป 

แม้การปกครองเช่นนี้อาจล่าช้าไม่ทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนบางกลุ่มบ้าง อาจติดขัดที่ขั้นตอนข้อจำกัดทางกฎหมาย การเมือง และงบประมาณบ้าง ต้องรับฟังความคิดเห็นโต้แย้งที่แตกต่างกันบ้าง แต่ก็เป็นไปตามครรลองของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยซึ่งทุกคนทุกฝ่ายต้องเรียนรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อดทน อดกลั้น ไม่ขัดแย้งรุนแรง มีเหตุผล มีวินัย เคารพเสียงข้างมาก ยึดมั่นในธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรมโดยคำนึงถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและวิถีชีวิตของไทย 

ผมได้เคยกราบเรียนพี่น้องทั้งหลายแล้วว่าการปกครองของประเทศเราจะอยู่ได้ก็ด้วยสามเสาหลักทำงานประสานกัน คือ ภาคการเมือง ภาคข้าราชการ และภาคประชาชนซึ่งต้องร่วมมือร่วมใจกัน สิ่งที่ คสช. รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ดำเนินการสอดประสานกันในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมานั้นหลายเรื่องน่าจะเป็นรากฐานให้รัฐบาลใหม่ ซึ่งจะเป็นรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเป็นรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ของประชาชนชาวไทยทุกคน  ที่ไม่มีการแบ่งแยกภาคหรือจังหวัดหรือแบ่งพื้นที่ตามฐานเสียงพรรคการเมืองใด ๆ โดยจะต้องสามารถทำงานต่อไปได้อย่างมั่นคงเพื่อสร้างความมั่งคั่ง และความยั่งยืนวัฒนาสถาพร

แต่หากเรื่องใด โครงการใด กฎหมายใดไม่เป็นที่พึงปรารถนาหรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกเพิกถอนได้อยู่แล้ว สิ่งใดที่เกิดขึ้นหรือหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามา วันหนึ่งย่อมจากไปหรือผ่านพ้นไปได้เป็นธรรมดา แต่ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา เป็นที่เกิด ที่อยู่อาศัยของลูกหลานเราจะต้องอยู่ต่อไป ทุกคนมีหน้าที่ต้องสนองพระบรมราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในอันที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด และปกป้องรักษาแผ่นดินไทยนี้เพื่อประโยชน์สุขแก่เราทั้งหลายร่วมกัน ด้วยความรักความสามัคคี เผื่อแผ่แบ่งปัน มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ เคารพกฎหมาย มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนอันเป็นที่รักยิ่งตลอดไป

ขอทุกท่านได้รับความขอบพระคุณและความปรารถนาดีอย่างจริงใจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของรัฐให้ความร่วมมือกับรัฐบาลใหม่ ฝ่ายนิติบัญญัติใหม่ ในอันที่จะรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบไทยให้คงไว้ รวมทั้งสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ จิตอาสา เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติสืบไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย