อุดรธานี 12 ก.ค.- ไฟปริศนาลุกไหม้ใต้ดินติดที่นาชาวบ้าน ความร้อนถึงกับต้มไข่สุก แต่มีควันส่งกลิ่นเหม็น สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 9 เตรียมประสานหน่วยงานตรวจสอบอย่างละเอียด
ที่บริเวณทุ่งนาริมหนองน้ำหนองหมัดหมู่ 9 บ้านเชียงพิณ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ชาวบ้านร้องเรียนเกิดไฟลุกไหม้อยู่ใต้ดินมานานกว่า 5 เดือน แม้ อบต.เชียงพิณ จะมาเปิดหน้าดินน้ำฉีดดับไปแล้ว แต่ไฟยังลุกไหม้มีกลุ่มควันสีขาวโชยขึ้นมา เมื่อเขี่ยดิน ควันจะออกลอยขึ้นมากมีกลิ่นเหม็นฉุนเหมือนไฟไหม้สารเคมี เมื่อสูดดมนานๆ จะแสบจมูก ส่วนต้นไม้ใหญ่ริมหนองน้ำก็แห้งตาย โดยที่ดินดังกล่าวเป็นนาปลูกหญ้าเนเปียร์สำหรับเลี้ยงวัว บริเวณที่เกิดไฟไหม้พื้นที่ประมาณ 50 ตารางวา มีร่องรอยการขุดเปิดชั้นใต้ดินกว้าง 1 เมตร ลึก 1 เมตร ป้องกันไม่ให้ไฟใต้ดินไหม้ลุกลามและกันวัวไม่ให้เข้าไป
นางปัทมา พิมพ์สาลี เจ้าของที่นา เล่าว่า เห็นควันไฟไหม้ใต้ดินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ วัวที่เลี้ยงไว้มากินหญ้า ขาหลังขวาตกลงไปในโพรงที่มีไฟไหม้จนวัวบาดเจ็บ ส่วนควันที่ออกมามีกลิ่นเหม็นฉุนโชยเข้าไปถึงหมู่บ้านที่ห่างไป 2 ก.ม.
นายประเสริฐ จันนาวัน ผญบ.หมู่ 9 บ้านเชียงพิณ ระบุไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่เดิมตรงนี้เคยมีไฟไหม้ใต้ดินมาก่อนตั้งแต่ตนยังเด็ก ส่วนจุดที่มีควันออกมา ถ้านำไข่ไก่ดิบใส่ลงไปทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ไข่ที่ใส่ลงไปก็สุกขนาดไข่ลวก
เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบพบการไหม้มีกลิ่นเหม็นของสารซัลเฟอร์ เหมือนการเผาถ่านหินคุณภาพต่ำ น้ำในหนองเป็นกรดอ่อนๆ เบื้องต้นแจ้งห้ามรดน้ำกับไฟเพราะน้ำจะเร่งปฏิกิริยาให้ไฟไหม้เพิ่มขึ้น และให้ อบต.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ สนง.อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 9 นำตัวอย่างก้อนดินสีดำ ที่นำมาจากจุดที่ไฟไหม้ใต้ดินมาตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีสีดำคล้ายถ่าน มีกลิ่นกำมะถัน และกลิ่นโคลน ลักษณะเหมือนดินที่เป็นซากทับถมของซากพืช ซากสัตว์ แล้วกลายเป็นถ่านหินคุณภาพต่ำ โดยอาจจะลุกติดไฟได้ กรณีที่มีการเผาไหม้ หรือมีสภาวะที่พร้อมจะติดไฟ ซึ่งเมื่อดินเกิดการเผาไหม้ใต้ดินไปแล้ว ก็อาจจะเกิดเป็นโพรงใต้ดิน การป้องกันเบื้องต้น ควรติดป้ายเตือนชาวบ้านห้ามเข้าไปบริเวณดังกล่าวเพื่อป้องกันอันตราย และหาวิธีดับไฟเบื้องต้น ด้วยการนำดินมาบดอัดให้แน่น เพื่อไม่ให้ถ่านหินสัมผัสอากาศหรือออกซิเจนมาช่วยการสันดาปลุกไหม้ขึ้นมาอีก ส่วนควันที่พวยพุ่งออกมาจากซากที่ตกตะกอน มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ กลิ่นจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ควรเลี่ยงการสูดดม หรือหาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ หากกลิ่นรุนแรงก็อาจจะระคายเคืองต่อระบบหายใจ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นภูมิแพ้ หากสัมผัสผิวหนัง อาจะเกิดระคายเคืองแสบคันได้ ที่สำคัญในการดับไฟ คือ ห้ามใช้น้ำฉีดดับไฟที่บริเวณดังกล่าว เพราะนำจะทำปฏิกิริยา ทำให้ไฟลุกไหม้มากขึ้น และจะทำให้เกิดควันมากขึ้น ส่วนน้ำในหนองน้ำต้องวัดค่าความเป็นกรดด่าง เพราะว่าหนองอยู่ติดกับจุดไฟไหม้ ที่อาจจะซึมลงใต้ดินเข้าไปในหนองน้ำ จึงยังไม่ควรนำน้ำในหนองหมัดมาใช้อุปโภคบริโภค หรือทำการเกษตรถ้าจะให้ชัดเจนควรให้กรมทรัพยากรธรณีตรวจสอบ สภาพทางธรณีว่าเป็นอย่างไร ดินที่ติดไฟเป็นอะไรแน่ ทำไมดินถึงลุกติดไฟได้ ขณะที่ยังพบว่าทางเข้าริมหนองน้ำหนองหมัด ยังคงเกิดควันสีขาวจากการลุกไหม้ใต้ดินเหมือนเดิม และยังมีกลุ่มควันขึ้นเพิ่มอีก 1 จุด บริเวณริมหนองน้ำ ห่างจากจุดที่ไฟไหม้เดิมประมาณ 10 เมตร.-สำนักข่าวไทย