ป.ป.ส. 12 ก.ค.- ป.ป.ส.มอบกัญชาของกลางให้ รพ.อภัยภูเบศร สกัดทำยากว่า 600 กิโลกรัม ย้ำกัญชายังเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นประธานส่งมอบของกลางกัญชาที่ได้รับการอนุญาตครอบครองจากคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) จำนวน 632 กิโลกรัม ให้กับนางสาวจันทิมา สุวรรณ แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ ผู้แทนจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการเเพทย์ และการศึกษาวิจัย
นางสาวจันทิมา กล่าวว่า ป.ป.ส. ได้สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในระยะแรก ไปแล้ว 30 กิโลกรัม พบว่าสารโลหะหนัก หรือยาฆ่าแมลงในของกลาง ที่ได้รับการตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่ปนเปื้อนออกมามาก สารสำคัญที่ใช้ทางการแพทย์อย่างสาร cbd และ thc มีความเข้มข้นอยู่ในปริมาณที่นำไปสกัดได้ ตอนนี้ทางโรงพยาบาล ยังไม่ได้ดำเนินการเอาไปสกัดเป็นน้ำมันกัญชาเนื่องจากล็อตแรกเป็นการทดลองสกัดหาสารปนเปื้อน น้ำมันกัญชาที่ได้มาขณะนี้เป็นน้ำมันกัญชาจาก อย.เท่านั้น โดยกัญชาที่ได้รับในวันนี้จำนวน 632 กิโลกรัมจะนำไปตรวจหาสารปนเปื้อนและส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ ซึ่งจะสามารถทราบผลได้ภายใน 15 วัน หลังจากได้ทราบผลตรวจจะสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนครึ่ง จุดประสงค์ที่จะนำไปรักษาเป็นคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย น่าจะได้หลักแสนขวด
นายนิยม กล่าวว่า กัญชาของกลางที่ดำเนินการจับและอยู่ในการครอบครองของ ป.ป.ส. ในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 22 ตันทั้งหมดยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะนำไปใช้ทางการแพทย์ได้ทั้งหมดหรือไม่ต้องรอไปตรวจพิสูจน์หาสารปนเปื้อนและโลหะหนัก ป.ป.ส.ยินดีให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่จะนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และเพื่อการศึกษา แต่ละหน่วยงานอาจใช้ในวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ประโยชน์ เพียงแต่ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่กำหนดไว้ ขณะนี้มีหน่วยงานที่ได้ขอรับการสนับสนุนกัญชาแล้ว จำนวน 10 หน่วยงาน และมี 3 หน่วยงาน ที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ได้แก่
1.โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้นอาจาโร ขอรับการสนับสนุนของกลางกัญชา จำนวน 7 กิโลกรัม ซึ่งเป็นกัญชา ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่งตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อน ชนิดโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ ไม่พบการปนเปื้อน ดังนั้น จึงเป็นกัญชาที่มีวัตถุประสงค์เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย โรงพยาบาลฯ จึงนำกัญชาดังกล่าวไปเพื่อใช้ในการผลิตเป็น 16 ตำรับยา ได้แก่ ยาศุขไสยาศน์ ยาทำลายพระสุเมรุ ยาทัพยาธิคุณ ยาแก้สันฑฆาต ยาไฟอาวุธ รวม 5 ตำรับยา สำหรับผู้ป่วย 1,600 ราย ให้ทันต่อความต้องการของสถานบริการของรัฐและเอกชน ตลอดจนผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวในการรักษาโรค
2.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ขอรับการสนับสนุนของกลางกัญชา จำนวน 662 กิโลกรัม โดยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มารับกัญชาไปแล้ว จำนวน 30 กิโลกรัม เพื่อนำไปทดลองสกัดและตรวจวิเคราะห์ก่อนว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่จะนำไปใช้ได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลสามารถดำเนินการสกัดได้ด้วยวิธี Supercritical Fluid Extraction จึงขอรับส่วนที่เหลือ จำนวน 632 กิโลกรัมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำกัญชาดังกล่าวไปทำยาพัฒนาจากสมุนไพร (น้ำมันกัญชา) เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยการคำนวณปริมาณกัญชา จำนวน 662 กิโลกรัม จะได้น้ำมันกัญชาที่มีค่า THC ร้อยละ 5 บรรจุขวดละ 5 กรัม จำนวนถึง 127,104 ขวด ซึ่งสามารถจะรักษาผู้ป่วยได้เป็นจำนวนมาก
3. คณะทันตแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอรับการสนับสนุนของกลางกัญชา จำนวน 10 กิโลกรัม เพื่อดำเนินการในโครงการวิจัย นำมาพัฒนายาต้นแบบใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคทันตกรรม และโรคพาร์กินสัน ซึ่งในช่วงแรกของการศึกษาวิจัย จะเริ่มจากการพัฒนาวิธีการสกัด และวิธีวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือเฉพาะ เพื่อค้นหากระบวนการที่เหมาะสมในการสกัดและควบคุมคุณภาพ
ทั้งนี้ ป.ป.ส.ยืนยันว่ากัญชายังเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย หากประชาชนมีการซื้อขายหรือครอบครอง รวมถึงปลูกไว้ที่บ้านแม้จะอ้างว่าเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาก็ถือว่าผิดกฎหมาย หากมีความจำเป็นต้องใช้สารสกัดจากกัญชาขอให้ไปพบแพทย์เพื่อให้ประเมินว่ามีความจำเป็นขนาดไหน ไม่ควรซื้อมาใช้เอง .-สำนักข่าวไทย