จับลอบขายแก๊สหัวเราะให้นักท่องเที่ยวถนนข้าวสาร

กทม. 12 ก.ค. – จับ 9 ผู้ต้องหา ลอบขายแก๊สหัวเราะบรรจุในลูกโป่ง บริเวณถนนข้าวสาร เตือนหากสูดดมมากจะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง


เมื่อช่วงหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน กก.ดส.บช.น. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารวม 9 คน พร้อมของกลางแก๊สหัวเราะจำนวนมาก 


พล.ต.ต.สุคุณ กล่าวว่า การจับกุมและตรวจยึดของกลางในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.ดส.บช.น. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบจำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์ หรือแก๊สหัวเราะ บริเวณถนนข้าวสาร ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการสถานบันเทิงต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงวางแผนและนำกำลังเข้าตรวจสอบผู้ลักลอบจำหน่ายดังกล่าว กระทั่งพบผู้จำหน่ายตลอดทั้งถนนข้าวสารจำนวน 9 คน กำลังนั่งขายลูกโป่ง บรรจุแก๊สหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมและควบคุมตัวสอบมาสอบปากคำต่อที่ สน.ชนะสงคราม และดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ผู้ใดผลิตหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ กล่าวว่า แก๊สไนตรัสออกไซด์ หรือแก๊สหัวเราะ ในทางการแพทย์ใช้เป็นแก๊สดมสลบก่อนการผ่าตัดหรือถอนฟัน ลดอาการปวดได้ดี ออกฤทธิ์รวดเร็วและหมดฤทธิ์เร็วเช่นกัน ตามกฎหมายถือว่าเป็นยาที่ใช้ตามโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังใช้ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยใช้บรรจุในถุงลมนิรภัยในรถยนต์ 

ปัจจุบันพบการลักลอบจำหน่ายแก๊สไนตรัสออกไซด์มาใช้ในทางที่ผิด นำมาสูดดมตามแหล่งสถานบริการต่างๆ เพื่อให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและเพลิดเพลิน นั่งหัวเราะ หากสูดดมเข้าไปมากจะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง ร่างกายไม่สามารถประสานการทางานของอวัยวะต่าง ๆ ได้ อาจทำให้หกล้ม บาดเจ็บ และหมดสติได้ และเมื่อสูดดมบ่อยครั้งเป็นเวลานาน ทำให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม มึน ชา กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย เหน็บชาบริเวณนิ้วมือนิ้วเท้า รับความรู้สึกไม่ได้ เนื่องจากภาวะขาดวิตามินบี 12 ร้ายแรงสุดอาจเสียชีวิตได้ เพราะแก๊สดังกล่าวจะเข้าไปแย่งออกซิเจนในเลือด เนื่องจากปริมาณแก๊สไนตรัสออกไซด์ที่มากและเข้าไปแทนที่ออกชิเจนในปอด และในระบบประสาทส่วนกลางจนหมด ร่างกายไม่สามารถควบคุมระบบหายใจ และหมดสติได้

สำหรับผู้ที่นำมาจำหน่ายหรือนำมาบรรจุใส่ลูกโป่ง ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากยาดังกล่าวเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ผู้ใดผลิตหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจาคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ