เตรียมแจ้งข้อหา หญิงฉุนถูกล็อกล้อใช้เลื่อยตัดเอง

กทม. 11 ก.ค.- หญิงคนหนึ่งถูกตำรวจล็อกล้อ ไม่เป็นปัญหา ใช้เลื่อยตัดกุญแจที่ล็อกไว้เอง ตำรวจออกหมายเรียก พร้อมเตรียมแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์


ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tanit Nakornban โพสต์คลิปวีดีโอลงในเพจ เครือข่ายเพื่อนตำรวจ ทั้งภาพนิ่งและคลิป ภาพหญิงวัยกลางคนสวมเสื้อขาว กำลังใช้เลื่อยเหล็กตัดเหล็กล็อกล้อที่ ตำรวจนำมาบังคับไว้สำหรับรถยนต์ที่กระทำผิดกฎจราจร คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของรถยนต์ ฮอนด้าสีดำ ที่จอดอยู่ริมถนนย่านเยาวราช โดยเธอใช้เลื่อยตัดเหล็กพยายามเลื่อยแม่กุญแจที่ตำรวจล็อกล้อเอาไว้ออก แถมยังประสบความสำเร็จ สามารถตัดแม่กุญแจจนขาด แล้วยังหอบเอาที่ล็อกล้อไปด้วย ก่อนจะถืออุปกรณ์ล็อกล้อดังกล่าวโชว์ให้กับกล้องที่กำลังบันทึกภาพ โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก แชร์ไปเกือบ 200 แชร์ และตั้งคำถามถึงนิสัย และตั้งคำถาม การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายทำลายทรัพย์สินราชการหรือไม่ และเป็นคดีอาญาซึ่งร้ายแรงกว่าการไปเสียค่าปรับ พรบ.จราจร 


สำหรับจุดเกิดเหตุพบว่าอยู่ที่ถนนเยาวราช ซอย 23 ซึ่งมีป้ายห้ามจอด ระบุเวลาไว้ ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ขณะที่พนักงานร้านค้าแห่งหนึ่งในละแวกดังกล่าวเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ของวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นรถของใคร และรถถูกล็อกล้อ กระทั่งหญิงเจ้าของรถได้เข้ามาที่ร้าน และขอซื้อกุญแจล็อกขนาด 2 นิ้ว และเดินออกไปก่อนที่อีกสักพักจะกลับมาอีกรอบ พร้อมขอซื้อเลื่อยขนาดเล็ก แล้วนำไปตัดกุญแจล็อกออกตามคลิป  

ด้านสิบตำรวจเอกสมคิด ดวนใหญ่ ผู้บังคับหมู่จราจร สน.จักรวรรดิ ซึ่งเป็นผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์เล่าว่า ขณะนั้นตนออกเวรพอดี และได้เปลี่ยนเป็นชุดไปรเวท ต่อมาได้แจ้งจากวิทยุสื่อสารว่า มีหญิงพยายามใช้ใบเลื่อยตัดที่ล็อกล้อ จึงไปตรวจสอบ และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับพยายามพูดคุยกับหญิงคนนี้ ซึ่งมีอายุประมาณ 40 ปี รู้สึกโมโหที่รถถูกล็อกล้อ ทั้งยังอ้างโทรไป สน. แต่ไม่มีคนรับสาย จึงไปหาซื้อใบเลื่อยจากร้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงในราคา 100 กว่าบาท มาตัดที่ล็อกออก แลัวนำขึ้นก่อนขับออกไป กระทั่งวันรุ่งขึ้น หญิงคนนี้ได้โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้แม่ และพี่ชายของหญิงรายนี้ โทรมาสอบถามที่ สน. ว่าได้คุมตัวหญิงในคลิปไว้หรือไม่ เพราะหญิงในคลิปหายตัวออกจากบ้านมา ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่สามารถติดต่อได้จนถึงขณะนี้ พร้อมว่ากำลังจะพาตัวไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลในจังหวัดราชบุรี แต่กลับหายตัวไปก่อน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ทั้งอธิบายว่า การเสียค่าปรับจากการถูกล็อกล้อ อยู่ที่ 500-1,000 บาท จุดดังกล่าวมีผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรจอดในที่ห้ามจอด จอดซ้อนคัน และทับทางม้าลายเฉลี่ยวันละ 5 ราย ล่าสุดมีรายงานว่า ตำรวจได้ออกหมายเรียกหญิงในคลิปให้เข้ามาพบแล้ว พร้อมเตรียมแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่เข้ามาพบแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]