บางกอกน้อย 11 ก.ค.- กองทัพเรือจัดพิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่และเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ด้านรองเสนาธิการทหารเรือเผย เตรียมทยอยอัญเชิญเรือลงน้ำตั้งเเต่วันพรุ่งนี้ เเละฝึกซ้อมย่อยเสมือนจริงครั้งแรก 22 ส.ค. ก่อนซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย 21 ต.ค.ขณะที่กาพย์เห่เรือเเต่งใหม่ทั้งหมด 3 บท อยู่ระหว่างเสนอต่อสำนักพระราชวัง ด้านกรมศิลป์เผยบูรณะปฏิสังขรณ์เรือทุกลำเรียบร้อยเเล้ว
พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ พิธีสงฆ์ และเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือพระราชพิธี 14 ลำ ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธีและท่าวาสุกรี เพื่อความเป็นสิริมงคลเเละขวัญกำลังใจแก่กำลังพลประจำเรือ ก่อนนำเรือไปใช้งาน ซึ่งถือเป็นประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติมาตั้งเเต่โบราณ ด้วยความเชื่อว่าเรือทุกลำมีเเม่ย่านางสิงสถิตอยู่ คอยปกปักรักษาเเละป้องกันอันตราย
โดยในเวลา 07.00 น.ได้ทำพิธีบวงสรวงที่พิพิธภัณฑสถานเเห่งชาติเรือพระราชพิธี มีเรือร่วมในพิธี ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือเอกชัยเหินหาว เรือครุฑเหินเห็จ เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เเละเรืออสุรวายุภักษ์
จากนั้นในเวลา 10.00 น.ทำพิธีบวงสรวงที่ท่าวาสุกรี โดยมีเรือร่วมพิธี ได้แก่ เรือเอกชัยหลาวทอง เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมืองเเละเรืออสุรปักษี เเละหลังจากเสร็จพิธีบวงสรวง ในวันที่ 12-23 ก.ค.นี้จะเชิญเรือพระที่นั่งเเละเรือรูปสัตว์ลงน้ำ เเละลากจูงเรือเข้าเก็บที่อู่ทหารเรือธนบุรีเพื่อเตรียมงานพระราชพิธี ก่อนจะมีพระราชพิธีจริงในวันที่ 24 ต.ค.นี้
พล.ร.ท.จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ประธานคณะกรรมการจัดเตรียมขบวนเรือพระราชพิธี กล่าวว่า การฝึกซ้อมกำลังพลของขบวนเรือในพระราชพิธีครั้งนี้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเข้าจัดรูปขบวนเรือในแม่น้ำ โดยจะฝึกซ้อมที่วัดราชาธิวาสใกล้ท่าวาสุกรี ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมาจนถึงกลางเดือนส.ค.
จากนั้นจะซ้อมย่อยครั้งที่ 1 วันที่ 22 ส.ค. เเละซ้อมย่อยต่อเนื่องตามลำดับรวม 10 ครั้ง เเละซ้อมใหญ่ 2 ครั้ง ซึ่งวันซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายคือวันที่ 21 ต.ค.นี้ โดยเป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ทั้งการเเต่งกายตามจริงเพื่อให้คุ้นเคยกับเครื่องแบบ
ส่วนการอัญเชิญเรือพระที่นั่งลงน้ำ เริ่มทยอยอัญเชิญตั้งเเต่วันพรุ่งนี้ โดยมีลำดับการเชิญลงน้ำตามระดับน้ำ ซึ่งภายในปลายเดือนก.ค.เรือทุกลำจะถูกอัญเชิญลงน้ำทั้งหมด โดยเรือพระที่นั่งเเละเรือรูปสัตว์จะอัญเชิญไปไว้ที่อู่ทหารเรือธนบุรี จำนวน 2 อู่ ส่วนกำลังพลตอนนี้มีความพร้อมใจทั้งกายเเละใจแล้ว
ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำตามเส้นทางเเม่น้ำที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน ให้ตกเเต่งอาคารบ้านเรือนให้สวยงาม เเละเเต่งกายด้วยความสุภาพเรียบร้อย ส่วนกาพย์เห่เรืออยู่ระหว่างเสนอต่อสำนักพระราชวัง ซึ่งมีทั้งหมด 3 บทเป็นการเเต่งใหม่ทั้งหมด โดยจะเริ่มใช้ซ้อมย่อยครั้งที่ 1 ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ด้วย
ด้านนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้รับผิดชอบในส่วนการซ่อมแซมลวดลายประดับพระราชพิธีตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา ซึ่งขณะนี้ได้บูรณะปฏิสังขรณ์เรือทั้ง 52 ลำเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว โดยเฉพาะเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เร่งให้เสร็จตั้งแต่เม.ย.ที่ผ่านมาเพื่อให้ทันงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ทั้งนี้ การบูรณะซ่อมแซมคงรูปแบบดั้งเดิมทั้งหมด แต่อาจเปลี่ยนตรงจุดที่หมองคล้ำหรือชำรุด โดยเฉพาะเรือสุพรรณหงส์ ทำใหม่เกือบทั้งลำ มีการลงรักปิดทองประดับกระจกใหม่ ฉัตร บัลลังก์กัลยาเรือ เสร็จหมดแล้ว ซึ่งระหว่างการฝึกซ้อม กรมศิลปากรจะเข้ามาคอยดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เรือมีความสวยงามอยู่เสมอส่วนด้านโครงสร้างนั้น เป็นหน้าที่ของกองทัพเรือในการบูรณะซ่อมแซม
สำหรับการเสด็จเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในช่วงการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินปลายปี พ.ศ.2562 ถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย เเละการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ เป็นครั้งเเรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้มีการเตรียมเรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ มาจัดขบวน หลังว่างเว้นมาตั้งเเต่ปีพ.ศ.2555
ขณะที่กำลังพลประจำเรือพระราชพิธีได้คัดเลือกกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ จำนวน 2,200 นาย ส่วนใหญ่เป็นกำลังพลที่ไม่เคยเป็นกำลังพลประจำเรือพระราชพิธีมาก่อน และมีการฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มฝึกซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.เป็นต้นไป โดยเป็นการฝึกซ้อมการเข้ารูปขบวน และการเดินทางเป็นรูปขบวนตามลำดับ ซ้อมจำนวน 12 ครั้ง แบ่งเป็นการซ้อมย่อยจำนวน 10 ครั้ง และซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง โดยการซ้อมย่อยในเเม่น้ำเจ้าพระยาครั้งเเรกจะมีขึ้นในวันที่ 22 ส.ค.นี้
สำหรับเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินที่ได้เตรียมไว้เป็นเส้นทางเดียวกับที่เคยใช้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 9 คือเส้นทางจากท่าวาสุกรี ถึง วัดอรุณราชวราราม รวมระยะทาง 4.2 กิโลเมตร
ส่วนการจัดเตรียมขบวนเรือพระราชพิธี จะมีการจัดรูปขบวนตามโบราณราชประเพณี แบ่งเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ได้แก่ ริ้วสายกลาง เป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง 4 ลำ เเละเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ ได้แก่ เรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรืองแตงโม เรือกลองใน เรือตำรวจนอกเเละเรือตำรวจใน ,ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าเเละเรือทองบ้าบิ่นเป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชลเเละเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ เเละปิดท้ายด้วยเรือเอกชัยเหินหาวเเละเรือเอกชัยหลาวทอง เเละริ้วสายนอก มีเรือดั้งเเละเรือเเซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งหมด 52 ลำ
ขณะที่เรือทุกลำทำจากไม้ มีอายุในการสร้างยาวนาน โดยเฉพาะเรือพระที่นั่ง 3 ลำ คือเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างในรัชกาลที่5 มีอายุกว่า 102 ปี , เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ อายุ108 ปี,เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช สร้างในรัชกาลที่ 6 อายุ 95 ปี, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่9 อายุ 23 ปี ส่วนเรืออื่นๆโดยเฉพาะเรือรูปสัตว์มีอายุการสร้างนับ 100 ปี .-สำนักข่าวไทย