ทำเนียบฯ 9 ก.ค.- นายกฯ เตรียมนัด ครม.ใหม่ ปฐมนิเทศ หลังพิธีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ หารือแนวทางการทำงาน ไม่ห่วงฝ่ายค้านตีรวนพิจารณางบประมาณ เตือนขอให้คิดถึงผลประโยชน์ของชาติ อย่านำมาเป็นประเด็นการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ รอพระบรมรคาชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ชุดใหม่ และจากนั้น จะเป็นขั้นตอนการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน คาดว่าจะไม่เกินช่วงกลางเดือนกรกฎาคม นี้ ยืนยัน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
“ภายหลังพิธีการเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฎิญาณตนแล้ว จะนัดหารือกับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ถือเป็นการปฐมนิเทศ เพื่อพบปะพูดคุยแนวทางการทำงานและนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา เพื่อให้มีความสอดคล้องกันทั้งหมด และจะนำนโยบายของทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านมาประกอบการพิจารณา บางอย่างได้ทำไปบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่ทุกพรรคไปหาเสียงกันมา เพราะเมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว การดำเนินการต้องอยู่ในกรอบงบประมาณที่มีอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยัน การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี2563 ที่จะล่าช้าออกไปอีก 1 ไตรมาศ เนื่องจากได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้วว่า หน่วยงานต่างๆ จะใช้งบฯ ของปี 62 ไปก่อนได้ และไม่กังวลว่า ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้มาตีรวน เพราะคนที่จะเสียประโยชน์คือประเทศชาติและประชาชน และหากใครคิดจะตีรวนก็ขอให้คิดให้ดี เพราะหากการพิจารณางบประมาณไม่ผ่าน การดำเนินโครงการต่างๆ ก็จะไม่สามารถทำได้ และขอให้ทุกคนคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ อย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีดูเหนื่อย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะชินแล้วในการทำงานมาตลอด 5 ปี แต่ใจต้องการให้การทำงานแล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในการทำงานตามนโยบายได้ทำเต็มที่ แต่ก็มีติดขัดในเรื่องของงบประมาณ การพัฒนาประเทศเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง หากมีปัญหาในแง่ของกฎหมายก็ต้องแก้ไขกันไป
“สิ่งสำคัญคือ คนไทยจะแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ ก็ต้องคำนึงถึงประเทศของเราด้วย และไม่ต้องการให้ใครมายุ่งเกี่ยวกับกระบวนการภายในของเรา โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ และหากเป็นการพูดในสิ่งที่บิดเบือนต่างๆ ก็ทำให้ประเทศเสียหาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปฏิรูปทางการเมืองไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของพรรคการเมืองและนักการเมือง ที่ต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพและบุคลิกต่างๆ และอย่าใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรมาด้อยค่าและพยายามล้มรัฐบาล ผลประโยชน์ของชาติและของประชาชน มีความสำคัญยิ่งกว่านั้น และถ้ายังเป็นอยู่เช่นนี้ ก็จะพัฒนาและปฏิรูปไม่ได้ .- สำนักข่าวไทย