พังงา 9 ก.ค. – ราษฎร ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ร้องเรียนถนนในหมู่บ้านเสียหายอย่างหนัก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎร
หลังเกิดเหตุฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของตำบลทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนหลายสายในหมู่บ้านต่างๆ ชำรุด เป็นหลุมบ่อ ราษฎรสัญจรไม่สะดวก และอาจเป็นอันตรายกับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว โดยเฉพาะถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ซอยบ้านบางปอ บ้านอินทนิน ต.ทุ่งมะพร้าว เกิดความเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดสาย ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร
นายรณรงค์ ปลอดทุกข์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านอินทนิน เปิดเผยว่า ถนนสายนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาของราษฎรจำนวน 50 ครอบครัว มากกว่า 200 คน ใช้เป็นเส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ เพราะมีพื้นที่การเกษตรมากกว่า 12,000 ไร่ หากมีการพัฒนาปรับปรุงก็จะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน
นายชัยรัฐ ชัยชนะ สมาชิก อบต.ทุ่งมะพร้าว เปิดเผยว่า ถนนที่ชำรุดเสียหายส่งผลความปลอดภัยของราษฎรในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะเด็กใช้เส้นทางดังกล่าวเดินทางไปโรงเรียน อาจเกิดอุบัติเหตุ นำเสนอปัญหาให้องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมะพร้าว และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่
นายเริงศักดิ์ วงศ์สถิตย์ ราษฎรหมู่ที่ 6 เปิดเผยว่า ซอยบางปอ ต.อินทนิน มีปัญหาถนนชำรุด เป็นหลุมบ่อมานานแล้ว ตั้งแต่จำความได้ แม้จะมีการซ่อมแซม แต่ก็ไม่เพียงพอ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็ว
นางปรีดา นางหลาด ราษฎรหมู่ที่ 6 บอกว่า ความชำรุดเสียหายของเส้นทางสัญจรในซอยบ้านบางปอ ที่เป็นหลุมบ่อส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข
ด้านนายกฤชธนา จินตรักษ์ ปลัด อบต.ทุ่งมะพร้าว รักษาการในตำแหน่งนายก อบต.ทุ่งมะพร้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจ และออกแบบ เพื่อจัดสรรงบประมาณไปพัฒนาซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายแล้ว เนื่องจากมีงบประมาณสำรองจ่าย และสามารถโอนเงินงบประมาณส่วนหนึ่งไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หากไม่เพียงพอก็จะนำเรื่องเข้าสู่สภาองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมะพร้าว ให้พิจารณาจ่ายขาดเงินสะสมที่มีอยู่มากกว่า 19,000,000 บาท ไปพัฒนาปรับปรุงซ่อมแซมให้ราษฎรในพื้นที่ใช้สัญจรไปมาด้วยความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย