กทม. 8 ก.ค.-ผู้การ ปคบ.โต้ผู้ต้องหาคดีขายยาลดความอ้วนเถื่อน กล่าวหา ตำรวจ ปคบ.รับส่วย เป็นอดีตตำรวจซึ่งถูกดำเนินคดีไปแล้ว
กรณีตำรวจสนธิกำลังร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจค้นบ้านหลังบ้านหรูในจังหวัดกาฬสินธุ์ มีหญิงอายุ 52 ปี เป็นเจ้าของและมีลูกสาวอดีตเภสัชกรลักลอบนำสารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ผสมตัวยาลดความอ้วนออกจำหน่าย จากการสอบสวนแม่ลูกระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ อ้างตัวเป็นคนของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เสนอตัวให้การช่วยเหลือพร้อมเรียกรับส่วยทุกเดือน ต่อมา ทาง สคบ.ตรวจสอบความจริงปรากฎว่า บุคคลดังกล่าว เป็นตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) นั้น
พลตำรวจตรีศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการ ปคบ. กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้ประสานรองผู้บังคับการตำรวจภูธรกาฬสินธุ์ ในฐานะเจ้าพนักงานท้องที่จับกุมผู้ต้องหาทราบว่าประเด็นที่แม่ลูกอ้างถึง เป็นเรื่องเมื่อ 3 ปีก่อน ขณะถูกจับกุมมีตำรวจยศเป็นพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับการ กองกำกับการ 4 บก.ปคบ. เสนอตัวให้ความช่วยเหลือทางคดี และจะช่วยไม่ให้ลูกสาวซึ่งเป็นเภสัชกรถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ แลกกับการจ่ายส่วย แต่สุดท้ายทั้งแม่ลูกก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงไปแจ้งความเอาผิดตำรวจนายนี้ ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
พลตำรวจตรีศิร์ธัชเขต กล่าวต่อว่า แม่ลูกยังร้องเรียนไปยังผู้บังคับการ ปคบ.ในสมัยนั้นจนมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงปรากฎว่า มีมูลน่าเชื่อว่ากระทำผิดจริง จึงตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งให้ตำรวจนายนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พร้อมย้ายไปประจำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งนี้หากผลการสอบสวนพบว่ากระทำผิดจริงก็มีโทษถึงขั้นไล่ออก
พลตำรวจตรีศิร์ธัชเขต ย้ำว่า หากผลการสอบสวนในการจับกุมครั้งนี้ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าทางใดจะไม่มีการช่วยเหลือทั้งสิ้น พร้อมเชื่อว่าคดีนี้ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และทาง บก.ปคบ.พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่.-สำนักข่าวไทย
