ผลสำรวจซูเปอร์โพล “ของหาง่าย ของหายาก ไทยแลนด์ 4.0”ระบุ รัฐมนตรีมีคุณธรรมหายาก

ซูเปอร์โพล 7 กค..-สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง  “ของหา ง่าย ของหา ยาก ไทยแลนด์ 4.0”พบส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.4 ระบุรัฐมนตรีมีคุณธรรม หายาก


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ของหา ง่าย ของหา ยาก ไทยแลนด์ 4.0 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,288 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง 1 – 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา พบประเด็นที่น่าพิจารณาหลายประเด็น ได้แก่


เมื่อถามถึงประสบการณ์ที่เคยพบเห็น แรงงานต่างด้าว ทำกับข้าวขาย แย่งอาชีพคนไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.9 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ร้อยละ 23.1 ระบุ หายาก อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม เมื่อถามถึงประสบการณ์ที่เคยเห็น งานดีมีเงินดี มั่นคงสำหรับคนไทย พบว่า ส่วนน้อยหรือร้อยละ 16.0 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.0 ระบุ หายาก ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อถามว่า คนไทยตกงาน โรงงานใช้เทคโนโลยีแทนแรงงาน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.2 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ส่วนน้อยหรือร้อยละ 18.8 ระบุ หายาก

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงประสบการณ์เคยพบเห็น รัฐมนตรีมีคุณธรรม จิตใจดี ทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศแท้จริง พบว่า ส่วนน้อยหรือร้อยละ 13.6 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.4 ระบุหายาก ในทางตรงกันข้าม เมื่อถามถึงประสบการณ์เคยพบเห็น เจ้าหน้าที่รัฐ รับสินบน วิ่งตำแหน่ง แสวงหาผลประโยชน์พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.6 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ส่วนน้อย หรือร้อยละ 11.4 ระบุ หายาก 

ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนที่เคยพบเห็น อาหารข้าวแกง ราคาถูก กินอิ่ม อร่อย พบว่า ส่วนน้อย หรือร้อยละ 30.0 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ร้อยละ 70.0 ระบุ หายาก ยิ่งไปกว่านั้น ที่น่าเป็นห่วง คือ เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนในเรื่อง ทำมาหากินขัดสน กฎระเบียบของรัฐเป็นอุปสรรคทำมาหากินของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.9 ระบุหาง่าย ในขณะที่ส่วนน้อย หรือร้อยละ 10.1 ระบุ หายาก


สุดท้าย ด้านการเมือง เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนที่เคยพบเห็น คนใกล้ชิดแวดล้อมนายกรัฐมนตรี เป็นคนดี มีคุณธรรม พบว่าส่วนน้อยหรือร้อยละ 20.7 ระบุ หาง่าย ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.3 ระบุ หายาก ในทางตรงกันข้าม นักการเมือง แย่งชามข้าว แย่งตำแหน่ง หาผลประโยชน์ส่วนตัว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.6 หาง่าย ในขณะที่ ส่วนน้อย เพียงร้อยละ 8.4 ระบุ หายาก

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า จากข้อมูลครั้งนี้เสนอทางออก 3 ประการช่วง “ขาลง” คะแนนนิยมตกต่ำให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ 1) รวบรวมทรัพยากรที่กระจัดกระจายอยู่มาไว้ในการบริหารจัดการของรัฐบาล 2) ปรับแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อความมั่งคั่ง มั่งคง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน และ 3) กระจายทรัพยากรคืนกลับไปถึงมือประชาชนทั้งประเทศโดยเร็ว เพราะกำลังเป็นช่วงเวลา “ขาลง” คะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำ โดยทำให้ของหายากเช่น งานดีมีเงินดีมั่นคงสำหรับคนไทย รัฐมนตรีมีคุณธรรม ทำเพื่อประโยชน์สุขให้ประชาชนทั้งประเทศ กลายเป็นของหาง่าย

“ความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ข้อมูลล่าสุดที่ค้นพบประชาชนประมาณร้อยละ 10 ว่างงาน ไม่ใช่ตัวเลขร้อยละ 1 ที่ว่างงาน และประชาชนที่ถูกศึกษาร้อยละ 35 – 40 ที่ระบุงานที่ทำไม่มีความมั่นคง ผลที่ตามมาคือ ฐานสนับสนุนรัฐบาลจึงลดต่ำลง ดังนั้น อย่าไปโทษสื่อมวลชนว่าเสนอข่าวด้านลบ เพราะความเป็นจริงของความเดือดร้อนยากลำบากอยู่ที่ประชาชนจริง ๆ จึงเสนอให้ ผู้มีอำนาจได้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ค้นพบนี้ปรับปรุงยุทธศาสตร์ นโยบาย แผน ชุดโครงการและโครงการทั้งระดับพื้นที่ (Area Base) และระดับประเทศ (National Base) เพื่อดึงฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อรัฐบาลกลับคืนมา” ผศ.ดร.นพดล กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]