หื่นวัย 41 ไหว้หญิงวัย 57 หลังข่มขืนไม่สำเร็จ อ้างแอบรักนานแล้ว

ฉะเชิงเทรา 4 ก.ค.-คุมตัวไอ้หื่นวัย 41 ปีเมากลัดมัน ย่องหาป้าข้างห้องใช้มีดขู่ ทุบตี และพยายามข่มขืน ไปทำแผนฯ สำนึกผิดยกมือไหว้เหยื่อ อ้างออกจากคุกแล้วจะมาขอ เพราะแอบหลงรักมานานแล้ว


ตำรวจ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นำตัวนายปริญญา พึ่งเกษม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนเหยื่อรายหนึ่ง อายุ 57 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่ พื้นที่ ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม รวมถึงพื้นที่ป่าละแวกใกล้เคียง


สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกชายของเหยื่อวัย 57 ปี ได้เข้าแจ้งความว่า แม่ ถูกเพื่อนข้างห้องทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนขณะพักอยู่ในห้องเช่าเมื่อเที่ยงวานนี้ (3 ก.ค.) ซึ่้งผู้เสียหายให้การว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามาในห้อง พร้อมถืออาวุธมีดในลักษณะมึนเมา จากนั้นได้พยายามผลักให้ลงไปนอน ก่อนทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี และใช้มีดขู่ไม่ให้ส่งเสียงร้อง แต่เหยื่ออาศัยจังหวะที่ผู้ต้องหาเผลอ วิ่งหนีออกจากห้องเพื่อไปหาลูกชายและขอความช่วยเหลือชาวบ้าน โดยวิ่งไปได้ระยะทาง 100 เมตร แต่ทว่าผู้ต้องหาตามทัน ก่อนกระชากและทุบตี ต่อยท้องเหยื่อ ก่อนลากเข้าป่าข้างทาง และจับถอดเสื้อผ้า จากนั้นนายปริญญา พยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะกอดและนอนทับเหยื่อนานกว่า 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น. จากนั้นเหยื่อได้ออกอุบายว่าจะไปซื้อเหล้ามากินเป็นเพื่อน จึงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งไปขอความช่วยเหลือลูกชายและชาวบ้าน กระทั่งตำรวจ สภ.พนมสารคาม ได้เข้าระงับเหตุและจับกุมผู้ต้องหาได้ในห้องเช่า ซึ่งจากการตรวจสอบพบในตู้เย็นมีแผ่นหนังลามกจำนวนมาก

สำหรับเหยื่อ ตำรวจได้นำตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.พนมสารคาม เพื่อหาร่องรอยอาการบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายและล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนผู้ต้องหาถูกนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ ทั้งจุดที่วิ่งไล่, ทำร้ายร่างกาย และจุดลากเหยื่อเข้าพุ่มไม้ข้างทางเพื่อหวังข่มขืน โดยระหว่างนั้นลูกชายของเหยื่อได้ปรี่เข้าไปต่อยหน้าผู้ต้องหา 1 ครั้ง จากนั้นตำรวจได้พาผู้ต้องหาไปไหว้ขอขมาเหยื่อ โดยผู้ต้องหาบอกว่า “ก่อเหตุไปเพราะความเมา เพราะแอบหลงรักมานานแล้ว” และบอกอีกว่า “จะรีบออกมาจากคุก แล้วมาสู่ขอไปอยู่ด้วย เพราะยังไงก็รัก”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง