กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – หอการค้าไทยเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย. ต่ำสุดรอบ 21 เดือน ประชาชนกังวลการเมืองและเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายน 2562 ลดลงมาจากระดับ 77.7 มาอยู่ที่ 76.4 เป็นการลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคยังกังวลเกี่ยวกับการเมืองในอนาคต ดังนั้น การเมืองจึงเป็นปัจจัยที่คนกังวลมากพอสมควร เห็นได้ชัดจากดัชนีความเชื่อมั่นทางการเมืองต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่พฤษภาคม 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ อีกทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสูง ตลอดจนราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดทรงตัวระดับต่ำ ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3 ปีนี้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยปีนี้จะมีโอกาสขยายตัวร้อยละ 3.5 หากหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้วมีการอัดฉีดเม็ดเงินนับแสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งจะทำให้เงินสะพัดเร็ว เพราะผู้มีรายได้น้อยมักใช้จ่ายอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ก็ต้องอัดฉีดการท่องเที่ยว หลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวจะหายไปประมาณ 20,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีความจำเป็นต้องดูแลเสถียรภาพของค่าเงินไม่ให้ผันผวนไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่ารัฐบาลควรใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อสนับสนุนนโยบายทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอาจจะลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 แล้วประเมินสถานการณ์ก่อน และมองว่าในช่วงครึ่งแรกปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.5 ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะยังไม่ปรับประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน และยังคงมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวร้อยละ 3.5 และการส่งออกมีโอกาสขยายตัวเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 0.5 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 1 .-สำนักข่าวไทย