นครศรีธรรมราช 2 ก.ค.-รวบทันควัน สาวทำทีซื้อทองก่อนอาศัยทีเผลอฉกสร้อยทอง 2 บาทหลบหนี เจ้าของร้านเผยไม่คิดว่าจะก่อเหตุ เพราะเป็นลูกค้าประจำ
พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี นำตำรวจชุดสืบสวน คุมตัว น.ส.ภัทราวดี คมพัดลับ อายุ 28 ปี แม่ค้ารับซื้อมังคุด ชาว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในร้านทองบ้วนแซ เลขที่ 4/103 ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
ผู้ก่อเหตุ ทำทีมาขอซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมขอลองสวมใส่คอ เมื่อเห็นเจ้าของร้านเผลอ ได้รีบออกไปขึ้นรถกระบะที่บรรทุกตะกร้ามังคุดมาเต็มคัน จอดรออยู่หน้าร้านหลบหนีไป ซึ่งขณะก่อเหตุกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมและใบหน้าได้อย่างชัดเจน เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.30 น. บ่ายวันที่ 1 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา
หลังก่อเหตุ ทางตำรวจชุดสืบสวน แกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด ทั้งในร้านทองและตามเส้นทางหลบหนี ตลอดจนสอบปากคำพยานแวดล้อม จนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุคือ น.ส.ภัทราวดี ซึ่งเป็นแม่ค้ารับซื้อผลไม้ในพื้นที่ อ.เขาคิชฌกูฏ จนเมื่อเวลา 20.30 น. วันเดียวกัน ตำรวจสืบสวน สามารถติดตามจับกุมตัว น.ส.ภัทราวดี ผู้ต้องหาได้ ภายในตลาดกระทิง อ.เขาคิชฌกูฏ พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ หนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์, เงินสดจำนวน 4,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม และรถกระบะโตโยต้า รีโวแค็ปสีขาว หมายเลขทะเบียน ผจ-9803 นครศรีธรรมราช พาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ
จากการสอบสวน น.ส.ภัทราวดี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลที่ก่อเหตุในคลิปภาพวงจรปิดจริง โดยเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก อ้างว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบโดยสร้อยคอทองทำหนัก 2 บาท ที่ลักเอาไป ได้นำไปรวมกับสร้อยคอหนัก 2 บาทของตนเองและนำเปลี่ยนเป็นสร้อยคอเส้นใหม่ น้ำหนัก 3 บาท ที่ร้านรับจำนำแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.จันทบุรี และยังมีเงินสดส่วนต่างที่เหลือจากการเปลี่ยนทองอีก 14,000 บาท จากนั้นได้นำเงินสด จำนวน 10,000 บาท ฝากในบัญชีธนาคาร ส่วนที่เหลืออีก 4,000 บาท เก็บไว้กับตัว หลังก่อเหตุไม่ทราบว่าเจ้าของร้านรู้ตัวและแจ้งตำรวจให้ติดตามจับกุม จึงได้กลับมาซื้อขายผลไม้ในตลาดตามปกติ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.คณกร อัศวเมธี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนรถยนต์พาหนะที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถของแม่และคนขับเป็นลูกจ้าง ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุ ทางตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำและเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ส่วน น.ส.ภัทราวดี ผู้ต้องหา ได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายพิพัฒน์ วังศิริไพศาล เจ้าของร้านทอง ผู้เสียหายเปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้ต้องหาทำทีเข้ามาขอซื้อสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท และขอลองสวมใส่ เมื่อตนเผลอ คนร้ายได้สลับเอาสร้อยคอทองคำอีกเส้นออกมาให้ดู ต่อมาผู้ต้องหาบอกว่า ยังไม่ต้องการซื้อทองในวันนี้ อ้างว่าไม่สะดวกต้องรีบนำมังคุดกลับไปส่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะเดินออกไปจากร้านด้วยท่าทีเร่งรีบ ทำให้ตนเองเอะใจ รีบตรวจนับจำนวนสร้อยคอในถาด พบว่ามีสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท หายไป 1 เส้น จึงรีบเปิดกล้องวงจรปิดดู จึงพบว่าผู้ต้องหาได้นำไปลองสวมใส่และไม่ได้ถอดคืน ก่อนตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตัวไม่คิดว่า น.ส.ภัทราวดี จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากมีอาชีพการงานที่น่าเชื่อถือ และยังเป็นลูกค้าประจำที่ร้านอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย