โอซาก้า 28 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม G20 ณ นครโอซากา เสนอแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน เปิดเสรีทางการค้า และการรวมตัวทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนการเติบโตของโลก ระบุ อาเซียนมีการรวมตัวทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง ไทยมุ่งมั่นให้ RCEP บรรลุผลภายในปีนี้
“พิษณุ แป้นวงศ์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมผู้นำกลุ่ม 20 ประจาปี 2562 (G20 Osaka Summit) ณ นครโอซากา ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน 2562 รายงานว่า เวลา 12.00 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมผู้นำกลุ่ม G 20 ช่วงแรก เรื่องเศรษฐกิจโลก การค้าและการลงทุน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แลกเปลี่ยนมุมมองว่า ภายหลังจากที่ไทยได้เป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียน พบว่าภาวะเศรษฐกิจโลกประสบกับความไม่แน่นอน เหตุมาจากปัจจัยหลักคือ การขาดความเชื่อมั่นต่อระบบการค้าพหุพาคี นำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้า ทำให้ระบบเศรษฐกิจโลกมีความเปราะบาง และกระทบต่อบรรยากาศของความร่วมมือระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี เห็นว่า แนวทางการแก้ไขที่สอดคล้องกับหัวข้อวาระการเป็นประธานอาเซียนของไทย คือ ทุกประเทศควรมองผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว และร่วมมือกันสร้างระบบเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและยั่งยืน โดยผู้นำอาเซียนได้รับรองเอกสารสำคัญ ที่ระบุถึงแนวทางความร่วมมือในอาเซียนกับหุ้นส่วนภายนอก 2 ฉบับ ได้แก่ วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน และมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ซึ่งย้ำถึงการส่งเสริมสันติภาพ และเสถียรภาพ การพัฒนาและก้าวไปด้วยกัน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายกรัฐมนตรียังได้เสนอแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน คือ ย้ำหลักการเปิดเสรีทางการค้า และการรวมตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของโลก และว่า อาเซียนมีการรวมตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ไทยมุ่งมั่นให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP บรรลุผลภายในปีนี้ หวังว่า RCEP จะเป็นเขตการค้าเสรีที่ประกอบด้วย ทั้งสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่ครอบคลุมร้อยละ 31.6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการค้าพหุภาคี และพัฒนาความร่วมมือเพื่อส่งผลปฏิรูปไปยังองค์การการค้าโลก หรือ WTO ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับประเด็นการค้ายุคใหม่ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และสร้างความสอดคล้องระหว่างประเทศ ภูมิภาค และกรอบความร่วมมือทั่วโลก ผ่านการส่งเสริมความเชื่อมโยงทุกระดับ โดยในระดับอาเซียน ไทยผลักดันแนวคิดความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ และขยายแนวคิดเชื่อมโยงกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ACMECS ASEAN BIMSTEC ACD และ IORA
นายกรัฐมนตรียังเสนอการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหุ้นส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกับภาคธุรกิจ เพื่อผลักดันแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น การลดความเหลื่อมล้ำ การรับมือกับเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก สังคมผู้สูงอายุ การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางธรรมชาติ รวมถึง การสนับสนุนศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่อาเซียนกำลังจัดตั้งที่ประเทศไทย ในปี 2562 นี้ . – สำนักข่าวไทย