กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.- ที่ประชุมผู้นำอาเซียนให้การรับรองข้อตกลงสำคัญหลายฉบับ เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ผลักดันข้อตกลง RCEP ให้แล้วเสร็จในปีนี้ ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ให้ความมั่นใจต่อผู้นำอาเซียน ไทยได้รัฐบาลชุดใหม่ภายใน ก.ค.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 วันนรี้ (23 มิ.ย.) ว่า การพบหารือกับผู้นำอาเซียนและผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน ผู้แทนเยาวชนอาเซียน และ สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เป็นความร่วมมือเพื่อก้าวไปข้างหน้า ในการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายใต้กรอบของแนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมอาเซียนสนับสนุนการดำเนินการของไทยในการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่าง ๆ เน้นเสริมสร้าง ความมั่นคงที่ยั่งยืน สร้างอาเซียนที่เชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ให้เกิดเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค พร้อมรับรองวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน และรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน ที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาขยะทะเลอย่างจริงจังและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันเปิดตัวคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือทางไกลของอาเซียน ภายใต้โครงการจัดตั้งระบบโลจิสติกส์ฉุกเฉินสาหรับใช้ในกรณีเกิดภัยพิบัติของ อาเซียน ที่เรียกกันว่าศูนย์เดลซ่า (DELSA) และดำเนินการยกระดับศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน เป็นองค์กรของอาเซียนอย่างเป็นทางการ และที่ประชุมยังได้รับรองแถลงการณ์ผู้นาอาเซียนว่าด้วยปีแห่งวัฒนธรรม อาเซียน 2562 และจะมีการดำเนินการกิจกรรมตลอดทั้งปี รวมถึง การจัดตั้งเครือข่ายสมาคมอาเซียนในประเทศสมาชิก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นพ้องการจัดทำเอกสารมุมมองของอาเซียนต่อแนวคิดอินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific) โดยจะตั้งอยู่บนพื้นฐาน ความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน บนพื้นฐานของความเป็นแกนกลางของอาเซียน สร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม รวมถึง ยังผลักดันให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) แล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้อาเซียนรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้นำอาเซียนสนับสนุนให้อาเซียนร่วมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันบอลโลก หรือ ฟีฟ่า เวิล์ดคัพ ในปี 2034 โดยขอให้สมาชิกอาเซียนสนับสนุนเพื่อบรรลุฝันนี้ด้วยกัน
“ในนามของรัฐบาลไทย ขอขอบคุณทุกหน่วยงานและประชาชน ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพให้สำเร็จด้วยดี และในเดือนพฤศจิกายน 2562 ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียนอีกครั้ง และจะมีผู้นำจากนอกภูมิภาคเข้าร่วมด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ผู้นำแต่ละประเทศได้แสดงความชื่นชมเรื่องการจัดงานพระราชพิธบรมราชาภิเษกว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย งดงามและสมพระเกียรติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้แสดงความยินดีกับนายโจโค วิโดโด ที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ต่อในสมัยที่ 2 และได้การแสดงความยินดีกับตนที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวาระที่ 2 เช่นเดียวกัน
“ในการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยของไทย ที่ประชุมได้สอบถามถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ผมได้ยืนยันว่า ภายในเดือนกรกฎาคม ทุกอย่างจะเรียบร้อย ทุกคนไม่ได้ติดใจอะไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรจะต้องทำความเข้าใจกันให้ได้ เพื่อลดปัญหาภายในประเทศ และหวังว่าประเทศไทยและประชาชนจะก้าวไปข้างหน้าไปด้วยกัน และท่ามกลางสถานการณ์ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ดังนั้น หากยังทำตัวเหมือนเดิม และมีความไม่เข้าใจกัน ก็ไม่สามารถเดินหน้าเรื่องใดไปได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ไทย อินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่เป็นผู้ผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมัน ตกลงกันที่จะให้มีการหารือถึงปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง . – สำนักข่าวไทย