ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง 4 จำเลยดคีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน

กทม. 20 มิ.ย.- ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง 4 จำเลยดคีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน กรณียื่นขอศาล รธน.วินิจฉัยบทบัญญัติการประกันตัว  ชี้ เป็นเรื่องของการโต้แย้งในกฎหมายเกี่ยวกับการให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี


 

ศาลอาญารัชดาฯ นัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์คดีแชร์ลูกโซ์ยูฟัน สโตร์ รวม 7 สำนวน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 ยื่นฟ้องนายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า แม่ข่ายยูฟันสโตร์ , นายเควิน ลัย (Kevin Lai) สัญชาติมาเลเซีย อดีต ผจก.ธนาคาร UDBP , นายหยาง หยวน เฉา (Yang  Yuan Zhao) สัญชาติจีน อดีต รอง ผจก.ธนาคาร UDBP ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัท UDBP แมนเนจเมนท์ จำกัด (ประเทศไทย) ที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาการเงินของ บจก.ยูฟันสโตร์ , นายนที ธีระโรจนพงษ์ นักเคลื่อนไหวความหลากหลายทางเพศ , เครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน สโตร์ที่มีทั้งพนักงานบริษัทเอกชน-ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว และบริษัท ยูเทรดดิ้ง จำกัด บริษัทเครือข่ายยูฟันฯ เป็นจำเลยที่ 1-43 ในความผิด 5 ข้อหาฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 , พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดแบบขายตรง พ.ศ.2545 , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 , 343 และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 


คดีนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 25 ต.ค.56 – 18 มิ.ย.58 บจก.ยูฟัน สโตร์ ที่มีชาวมาเลเซียเป็นผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นที่ 1 มี พล.ต.อธิวัฒน์ สุ่นปาน และคนไทยอีกคนถือหุ้นลำดับถัดมา ขณะที่การดำเนินธุรกิจของยูฟันฯ นั้น ได้ชักชวนบุคคลเข้าร่วมในเครือข่ายในการประกอบธุรกิจ น้ำผลไม้สมุนไพร เครื่องสำอางผิวหน้า โดยทำให้หลงเชื่อว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย แต่ภายหลังได้หลอกลวงขายหน่วยลงทุนทางอิเล็กทรอนิกส์จำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ที่เรียกว่ายูโทเคน (U–TOKEN) โดยอ้างว่าได้รับความนิยมและยอมรับในประเทศออสเตรเลีย-มาเลเซีย ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยอัยการโจทก์ขอให้ศาลสั่งจำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงิน 356,211,209 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีด้วย 

วันนี้(20 มิ.ย.) ศาลเบิกตัวจำเลย 22 รายทั้งชาย หญิง ที่ต้องคำพิพากษาจำคุกสูงสุด 20-50 ปี จากเรือนจำมาฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ และก่อนหน้านี้ได้ออกหมายเรียกแจ้งให้จำเลย 21 รายที่ศาลยกฟ้องมาร่วมฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้(20 มิ.ย.)ก็มีกลุ่มญาติของจำเลยมาติดตามคำพิพากษาและให้กำลังใจจำเลยอีกกว่า 30 คน จนเกือบเต็มห้องพิจารณาคดี 

กระทั่งเวลา 11.45 น. องค์คณะผู้พิพากษาฯ ได้แจ้งให้จำเลยที่มาศาลทราบว่า คำพิพากษาที่ศาลอุทธรณ์ส่งมา เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 17,36,37,40 ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่น่าจะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ต.ค.60 และ 20 พ.ย. 60  น.ส.อลิสา หรืออลิส จำเลยที่ 17,นายวัจน์ณฐภัทร์ จำเลยที่ 36, นายบุญธรรม จำเลยที่ 37,นายรัชชาพงษ์ จำเลยที่ 40 ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับคำร้องของจำเลยทั้ง 4 ที่ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญฯ ปี 2560 มาตรา 212 วรรค 1 (บัญญัติว่าหากศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งว่าบทบัญญัติกฎหมายที่ใช้บังคับแก่คดีใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแล้วยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนนั้น ก็ให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยฯ) วินิจฉัยกรณีที่ศาลใช้ดุลยพินิจไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยได้เมื่อมีเหตุอันควรเชื่ออย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา(ป.วิอาญา) 108/1 บทบัญญัติของกฎหมายนั้นขัดต่อสิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าด้วยหลักการให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าในคดีอาญาผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด จนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา โดยคำขอในคดีอาญาต้องได้รับการพิจารณาฯ โดยการไม่ให้ประกันต้องเป็นไปตามกฎหมายบัญญัติ 


วันนี้ ศาลได้เบิกตัวจำเลยดังกล่าวมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในส่วนนี้ ซึ่งศาลอุทธรณ์ตรวจประชุมปรึกษาหาหรือกันแล้วเห็นว่า ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง นั้น แสดงให้เห็นว่ากรณีที่จะเสนอความเห็นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น ต้องเป็นกรณีที่ศาลเห็นเอง หรือคู่ความในคดีนั้นโต้แย้งเกี่ยวกับกฎหมายที่นำมาใช้บังคับในการพิจารณาพิพากษาคดี แต่กรณีคำร้องของจำเลยทั้ง 4 นั้น เป็นเรื่องของการโต้แย้งในกฎหมายเกี่ยวกับการให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี จึงไม่ใช่กรณีที่จะเข้าตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญดังกล่าวที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะรับคำร้องของจำเลยทั้ง 4 ไว้เสนอศาลรัฐธรรมนูญ โดยเหตุแห่งการพิจารณาให้หรือไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย ก็เป็นไปตามที่ ป.วิอาญา บัญญัติไว้ จึงให้ยกอุทธรณ์ในส่วนนี้ของจำเลยทั้ง 4   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหาคดีหลักคดีนี้ ที่อัยการโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ส่วนที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลย 21 คน และจำเลย 22 ราย ที่ยื่นอุทธรณ์นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ว่าจะมีคำพิพากษาอย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักแม่สายคลี่คลาย ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยท่วมใหญ่

ปภ.เชียงราย แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย คลี่คลายแล้ว หลังฝนตกหนักบริเวณรัฐฉานของเมียนมา ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่สาย ขณะที่ชาวบ้านผวา หวั่นซ้ำรอยวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา

แจ้งข้อหาโชเฟอร์แท็กซี่ขวางรถพยาบาล ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิต

แท็กซี่ป้ายเขียวขวางรถพยาบาล เปิดไซเรนขอทางแต่ไม่สนใจ ทำผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิตคารถ ล่าสุดตำรวจเรียกโชเฟอร์แท็กซี่แจ้งข้อหาแล้ว

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายชุมชน

ต้นน้ำฝนตกหนัก แม่น้ำสายเอ่อท่วมหลายใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชาวบ้านต่างรีบเก็บของขึ้นที่สูง ล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลง

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ