กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- ผบช.ปส. ยืนยันยังไม่พบดารา รายอื่น เกี่ยวข้องกับการเสพหรือค้ายา เครือข่าย “ปุ๊กกี้” ปฏิเสธ ไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับเพิ่ม
พลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้บัญชการตำรวจปราบปราบยาเสพติด เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง หลังการจับกุม ปุ๊กกี้ ปริศนา พรายแสง หรือ นางสาวพริสซิลลา จิวเมลลี่ อดีตนักร้องชื่อดัง และนายชลวิทย์ คีตะตระกูล สามี พร้อมผู้ต้องหาชาวไต้หวันอีก 1 คน โดยยืนยันว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบ ดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ เสพยาหรือค้ายาเสพติดเครือข่ายของปุ๊กกี้ และไม่ได้พุ่งเป้าหรือจับตาดู บุคคลมีชื่อเสียงรายใดเป็นพิเศษ รวมถึงจะยังไม่มีการออกหมายเรียกใครมาสอบสวน หรือออกหมายจับเพิ่มเติม พร้อมปฏิเสธว่าไม่เคย ให้ข่าวในเรื่องดังกล่าว
ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของปุ๊กกี้และสามีที่พบ เงินหมุนเวียนในบัญชีในช่วง 2 ปีกว่า 10 ล้านบาท ยืนยันว่า พบเส้นทางการเงิน ที่ เกี่ยวข้องกับการ ซื้อขายยาเสพติดโดยมีการโอนเงิน ครั้งละจำนวนมากหลายๆครั้ง แต่ก็ยอมรับว่าบางส่วนเป็นเงินที่เจ้าตัวได้มาจากการแสดง ซึ่งบัญชีที่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมีอยู่ 2-3 บัญชีและยังไม่พบว่ามีการซุกซ่อนโอนเงิน ไปยังบัญชีอื่นๆ
สำหรับการขยายผลไปถึงกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดที่นำยาเสพติดมาส่งให้กับปุ๊กกี้และสามีนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพราะเกรงว่าผู้ที่เกี่ยวข้อง หลบหนี
ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังเปิดเผยถึงการตรวจสอบ สารเคมีที่ยึดได้ที่บ้านพักของปุ๊กกี้ โดยเฉพาะสารเบคกิ้งโซดาจำนวนมาก จะเกี่ยวข้องกับการผลิต หรือเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด หรือไม่ โดยระบุว่าต้องรอให้คณะกรรมการตรวจสอบที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการ พร้อมยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่มี ความรู้เรื่องสารเคมีมากนัก
ส่วนกรณีที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ของไต้หวันเตรียมจะเดินทางมาหารือ กับตำรวจปราบปรามยาเสพติดของไทยนั้น เป็นเรื่องที่ทาง ไต้หวันต้องการจะประสานความร่วมมือ ในการ แก้ไขปัญหา การค้า ยาเสพติดข้ามชาติร่วมกับไทยรวมไปถึงปัญหา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่พบว่าคนร้ายหันมาใช้ไทยเป็นฐานในการหลอกลวง .-สำนักข่าวไทย