รัฐสภา 18 ส.ค.-สนช.รับฟังการแถลงปิดคดีถอดถอนนายประชา ประสพดี ออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และนัดลงมติพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. โดย ป.ป.ช.ยืนยันก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานบอร์ดองค์การตลาด มีการโทรไปให้ระงับการประชุมปลดผู้ว่าฯ ขณะที่ “ประชา” แจงโทรแค่ครั้งนี้ให้ชะลอประชุมเพื่อรับนโยบาย พร้อมย้ำการจะถอดถอนได้ ต้องมีคนร้องให้ถอดถอน
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อแถลงปิดสำนวนคดีถอดถอนนายประชา ประสพดี ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กล่าวหาก้าวก่าย แทรกแซงการทำงานของบอร์ดองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย เพื่อช่วยเหลือคดีทุจริตให้ นายธีธัช สุขสะอาด อดีตผู้อำนวยการองค์การตลาด เมื่อปี 2555
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ร้อง แถลงว่า นายประชาได้ใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการบริหารองค์การตลาด และโทรศัพท์สั่งให้กรรมการบริหารองค์การตลาดชะลอการประชุมเพื่อตรวจสอบนายธีธัช วันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 และภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการองค์การตลาด วันที่ 15 พฤศจิกายน มีมติเลิกจ้างนายธีธัช นายประชาออกมาระบุว่าการประชุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และมีความพยายามเสนอขอปลดกรรมการองค์กรบริหารองค์การตลาด 4 คน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการใช้อำนาจขัดกับกฎหมายรัฐวิสาหกิจ
น.ส.สุภา กล่าวว่า กรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจในการยื่นเรื่องถอดถอนนายประชาออกจากตำแหน่งได้ตามบทบัญญัติ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่กำหนดให้ประธาน ป.ป.ช.สามารถยื่นถอดถอนนักการเมืองที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญาต่อวุฒิสภาได้
ด้านนายประชา ประสพดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ถูกกล่าวหา แถลงปิดคดีว่า การถูกถอดถอนให้ออกจากตำแหน่งต้องดำเนินการด้วยการเข้าชื่อถอดถอนต่อ ป.ป.ช. และในกรณีของตนไม่ได้มีการยื่นถอดถอน แต่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลในคดีอาญา และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจไว้ แต่ ป.ป.ช.มาแก้กฎหมาย ป.ป.ช.ในภายหลัง ดังนั้น ถือว่ากรณีของตนไม่เข้าข่ายที่จะถอดถอนได้ และขอยืนยันว่า เมื่อคณะกรรมการองค์การตลาดมีมติเลิกจ้างนายธีธัชแล้ว ไม่ได้มีการส่งเรื่องการเลิกจ้างดังกล่าวให้ตนในฐานะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งลายลักษณ์อักษร หรือเอกสารใดๆ
นายประชา กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.กล่าวหาการที่โทรศัพท์ไปถึงกรรมการองค์การตลาด ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการฯ ว่า การโทรศัพท์ไปเพื่อขอความร่วมมือไปยังองค์กรตลาด เพื่อขอให้ชะลอการประชุมรอการเข้ามอบนโยบายเท่านั้น แต่ในช่วงหลังไม่ได้โทรไปเพิ่มเติม เนื่องจากรัฐมนตรีได้แจ้งว่าจะมอบหมายให้กำกับดูแลองค์การตลาด และมีคำสั่งมอบหมายงานตามมา และขอยืนยันด้วยว่า ไม่เคยรู้จักกับนายธีธัชมาก่อน เพราะนายธีธัชได้รับการสรรหาในสมัยนายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากนั้นนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.ได้นัดลงมติในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) เวลา 10.00 น.-สำนักข่าวไทย